พสกนิกรนำพวงมาลัยดอกไม้ถวายสักการะ ร.9 เนืองแน่นท่ามกลางฝนตกหนัก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ตุลาคม ที่ถนนหน้าพระลาน หน้าพระบรมมหาราชวัง สนามหลวง ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังจัดทำซุ้มประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรี และประตูมณีนพรัตน์ โดยประชาชนสามารถนำดอกไม้มากราบถวายบังคมได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเนื่องในโอกาสครบ 1 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต พสกนิกรจากทั่วทั้งประเทศต่างพากันนำดอกไม้ พวงมาลัย มากราบถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงร.9 ตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนใหญ่เป็นพสกนิกรที่มาร่วมตักบาตรอาหารแห้งพระสงฆ์ 199 รูป ที่โรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะเดินทางมาเข้าคิวกราบถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ต่อที่สนามหลวง จนแถวยาวจรดมหาวิทยาลัยศิลปากร เกือบถึงจุดคัดกรองท่าช้าง และอีกฝั่งหนึ่งจรดช่วงกำแพงวังไปจนเกือบถึงกระทรวงกลาโหม

Advertisement

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ประชาชนเข้า 2 จุดคัดกรองคือจุดคัดกรองท่าช้าง และหลังสะพานกระทรวงกลาโหมตลอดจนศาลหลักเมือง โดยมีประชาชนจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวก

ต่อมาในเวลา 10.20 น. จากบรรยากาศที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนมาตลอดในช่วงเช้า ได้เกิดฟ้าร้อง และฝนตกลงมาอย่างหนักบริเวณท้องสนามหลวง แต่ประชาชนไม่ย่อท้อ ต่างกางร่ม และใส่เสื้อกันฝนปักหลักเข้าคิวโดยไม่หวั่นต่อฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ก่อนที่ฝนจะหยุดลงในเวลา 11.00 น. ซึ่งประชาชนแต่ละคนจะใช้เวลารอประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และเจ้าหน้าที่จะเปิดให้เข้าทีละชุด ชุดละประมาณ 30 คน โดยภายหลังจากเข้ากราบถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์แล้ว ประชาชนยังพากันไปถ่ายรูปกับพระบรมฉายาลักษณ์หน้ามหาวิทยาลัยศิลปากรเพื่อเก็บเป็นที่ระลึกด้วย

Advertisement

นางสาวสุชาดา ไกรศุภมิตร อายุ 60 ปี และ นางสาวแสงทิวา ไชยยศ อายุ 57 ปี คุณครูโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แผนกประถมศึกษา กล่าวร่วมกันพลางร้องไห้ว่า หลังจากตักบาตรพระสงฆ์อุทิศถวายในหลวงร.9 เมื่อเช้านี้ จึงเดินทางมายังสนามหลวงและถวายพวงมาลัยกราบถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงร.9

ด้วยวันนี้ เป็นวันครบรอบ 1 ปีที่พระองค์เสด็จสวรรคต จึงอยากกราบถวายบังคมในจุดที่ใกล้พระองค์มากที่สุด และจำได้ว่าวันนี้ของปีที่แล้ว ข่าวต่างๆ ถาโถมเข้ามาเยอะมาก โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย แต่ยังไม่เชื่อ ตลอดทั้งเย็นจึงได้แต่เฝ้าหน้าจอโทรทัศน์ จนกระทั่งนายกรัฐมนตรีออกมาแถลงการณ์ รู้สึกเสียใจ ราวกับใจสลาย จนกระทั่งวันนี้ผ่านมา 1 ปี ก็ยังรู้สึกเศร้า แต่ก็เปลี่ยนความเศร้าเป็นพลังไปทำจิตอาสาเพื่อคนอื่นแทน อาทิ รับทำดอกไม้จันทน์ก่อนนำส่งกทม.ต่อไป

“วันนี้แม้ว่าฝนจะตกลงมาอย่างหนัก แต่ก็ถือว่าฟ้าร้องไห้จริงๆ และดีใจมากที่ร่มคันเล็กๆของเรา ได้เผื่อแผ่ให้คนอื่นได้ร่วมใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ที่โรงเรียนได้จัดนิทรรศการภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงร.9 และจัดพิธีตักบาตรถวายพระองค์ไปเมื่อวานนี้ ทุกครั้งเมื่อมีโอกาสจะสอนเรื่องราวของพระองค์ให้นักเรียนฟังตลอด หากสอนนักเรียนประถมก็จะน้อมนำเรื่องพระอารมณ์ขันไปเล่าให้เด็กๆฟัง เพื่อความเข้าใจง่าย ซึ่งเด็กๆก็จะตื่นเต้นและพากันถามเกี่ยวกับพระองค์ ส่วนในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ตั้งใจว่าจะดูโทรทัศน์ที่บ้าน เพราะรัฐบาลไม่อยากให้คนเข้ามาแออัดที่นี่ เชื่อว่าที่ไหนก็ส่งเสด็จพระองค์ได้เช่นกัน” นางสาวสุชาดา เผย

นางสาวสุชาดา และ นางสาวแสงทิวา

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image