ลือ‘บาร์ซ่า’จนปัญญา ต้องขายชื่อสนาม‘คัมป์นู’ เพื่อต่อสัญญา‘เมสซี่’!

ลิโอเนล เมสซี่ (แฟ้มภาพ AFP)

ทีมฟุตบอลบาร์เซโลน่าในศึกลาลีก้า สเปน พบข่าวไม่สู้ดีต่อเนื่อง เพราะนอกจากทีมกำลังเผชิญเหตุการณ์มีโอกาสถูกตัดสิทธิจากการแข่งขันฟุตบอลในประเทศสเปน กรณีที่แคว้นกาตาลุญญา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสโมสรประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม แต่มีการระงับคำสั่งชั่วคราวเพื่อต่อรองกับรัฐบาลกลางสเปนนั้น ล่าสุด “อาร่า” สื่อแคว้นกาตาลุญญาเผยรายงานพิเศษว่า

“บาร์ซ่า” หวังนำรายได้จากการขายชื่อสนามคัมป์นูในราคา 200 ล้านยูโร (8,000 ล้านบาท/อัตรา 1 ยูโร 40 บาท) เป็นเวลานานถึง 25 ปี และรายได้อีกทางที่จะมีการต่อสัญญาฉบับใหม่กับผลิตภัณฑ์กีฬาชื่อดังระดับโลก “ไนกี้” ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนชุดแข่งทีม มาเป็นเงินโบนัสราว 85-90 ล้านยูโร (3,400-3,600 ล้านบาท) ให้กับลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะคนสำคัญของสโมสร

เพื่อเป็นการดึงดูดใจให้กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 วัย 30 ปีรายนี้ ต่อสัญญาที่เหลืออยู่แค่จบฤดูกาลนี้ออกไป โดยยังไม่รวมค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่จะเพิ่มจากเดิมที่รับอยู่หลังหักภาษี 400,000 ยูโร (16 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์เป็น 550,000 ยูโร (22 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ ซึ่งบาร์เซโลน่าเคยอ้างว่าฮอร์เก้ เมสซี่ พ่อของลิโอเนล เมสซี่ ที่ควบตำแหน่งเอเยนต์ให้ลูกชายตัวเองเซ็นสัญญากับบาร์ซ่าแล้ว เหลือแต่ลายเซ็นต์เมสซี่เท่านั้น

นอกจากนี้ บาร์เซโลน่ายังมีโครงการปรับปรุงสนามคัมป์นูที่เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1954 และเปิดใช้เดือนกันยายน ปี 1957 ที่มีความจุกว่า 99,300 คน ให้เพิ่มเป็น 105,000 คน และเพิ่มหลังคาครอบคลุมให้ครบทั้ง 4 อัฒจันทร์อีกด้วย

Advertisement

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันบาร์ซ่าจะมีมูลค่าทีมจากการคำนวนปี 2017 ของ “ฟอร์บส์” สื่อการเงินประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับความเชื่อถือทั่วโลกสูงสุดอันดับ 2 ถึง 3,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (120,120 ล้านบาท/อัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐ 33 บาท) หรือราว 3,070 ล้านยูโร แต่พวกเขาจำเป็นต้องมีรายได้สมดุลกับรายจ่าย เพื่อไม่ให้ผิดกฎการเงินตามที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) กำหนด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image