เอ็นแคป ทับลาน แจ้งเตือนมอดไม้ ตามรวบเขมรได้ 20 ราย พร้อมเสบียง แถมยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง

วันที่ 13 ตุลาคม นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน มอบหมายให้นายกษิดิศ จั่นประดับ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ กาญจนะคช หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 นำเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งมีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน รวมกว่า 30 นายเข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ลักลอบเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน บริเวณป่าด้านทิศใต้ท้ายเขื่อนมูลบน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เพื่อพยายามเข้าไปตัดไม้พะยูง แต่ถูกกล้องวงจรปิดระบบเรียลไทม์ หรือกล้องเอ็นแคป (NCAPS) ที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งไว้จับภาพได้และแจ้งเตือนไปยังศูนย์ควบคุมเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงได้ส่งชุดลาดตระเวนของอุทยานแห่งชาติทับลานเข้าติดตามจนพบและจับกุมตัวได้ขณะที่กลุ่มคนดังกล่าวกำลังตั้งแคมป์พักผ่อนอยู่ภายในป่าจำนวน 3 คน ก่อนจะมีการส่งกำลังเข้าไปสมทบเพื่อปิดล้อมจับกุมเพิ่มเติม ล่าสุดสามารถควบคุมตัวชายฉกรรจ์ได้ทั้งหมดรวม 20 คน ทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา พร้อมเสบียงสัมภาระในการดำรงชีพในป่า น้ำมัน และเชือกอีกจำนวนมาก ประเมินแล้วสามารถดำรงชีพในป่าได้ประมาณ 1 เดือน นอกจากนี้ยังพบยาบ้าจำนวน 6 เม็ดตกอยู่ในบริเวณแคมป์จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม

เบื้องต้นกลุ่มชาวกัมพูชารับสารภาพว่าได้ลักลอบหลบหนีเข้าประเทศไทยมาทางชายแดน จ.สระแก้ว โดยมีนายหน้าชาวกัมพูชาเป็นผู้นำมา พร้อมจะมีเสบียงสัมภาระเตรียมไว้รอที่บริเวณชายป่า และนำเดินเท้าเข้าป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน เพื่อเตรียมไปตัดและขนลำเลียงไม้พะยูงซึ่งอ้างว่าเดินเท้าเข้าป่ามาแล้ว 5 วัน แต่ยังไม่ถึงจุดทำไม้ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน ทั้งนี้จากการสอบถามเพิ่มเติมยังทราบว่าชาวกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวได้ในจำนวน 20 คนนี้ เสพยาบ้าถึง 16 คน โดยให้เหตุผลว่าจะได้มีแรงเดินและมีแรงทำไม้ แต่ไม่มีผู้ใดยอมรับเป็นเจ้าของยาบ้าที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะยังคงควบคุมตัวทั้งหมดไว้สอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ก่อนจะส่งตัวทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน สภ.ครบุรีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายกษิดิศกล่าวว่า นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สั่งกำชับทางอุทยานแห่งชาติทับลานให้ดำเนินการเอาผิดกับกลุ่มผู้ที่พยายามบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานฯเพื่อเข้าไปทำไม้พะยูงอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวต่างชาตินั้นทั้งที่มีการรับสารภาพว่าตั้งใจจะเข้าไปตัดไม้พะยูง มีการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ พร้อม แต่เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ก่อนกระทำความผิด กลับสามารถเอาผิดได้แค่เพียงฐานบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานเท่านั้น ซึ่งโทษก็เพียงแค่ปรับและส่งกลับประเทศ ซึ่งหลายครั้งที่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดรายเดิมได้ซ้ำอีก แสดงว่าการลงโทษเพียงแค่ปรับและผลักดันกลับประเทศไม่ได้สร้างความเกรงกลัว หรือสามารถทำให้กลุ่มขบวนการมอดไม้เหล่านี้เข็ดหลาบได้

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image