อย่ากลัวเสียงสวรรค์

นับแต่ 22 พฤษภาคม 2557

วันก่อการรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง

จากหัวหน้า คสช.ผู้นำยึดอำนาจ แปรสถานภาพเป็นนายกรัฐมนตรี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารราชการแผ่นดินยาวนานเกินกว่าที่คณะผู้ก่อการในอดีตช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมายึดปฏิบัติ

Advertisement

มากกว่าอายุขัยรัฐบาลที่ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน

จาก 22 พฤษภาคม 2557 ถึงพฤศจิกายน 2561 อันเป็นวันที่ บิ๊กตู่ž สัญญาจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป

การรัฐประหารครั้งนี้ ยึดเอาอำนาจประชาชนไว้นานที่สุดถึง 4 ปี กับอีก 6 เดือน

ไม่นับรวมเวลารักษาการ รอยต่อเมื่อจัดให้มีการเลือกตั้งแล้วจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป กระทั่งได้รัฐบาลชุดใหม่มารับไม้ รับช่วงต่อการบริหารประเทศ

เป็น 4 ปี ที่ถ้าเป็นยุคประชาธิปไตย เท่ากับ 1 เทอม รัฐบาลเลือกตั้งตามกติการัฐธรรมนูญ กติกาการบริหารราชการแผ่นดิน

การยึดอำนาจรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2534

คณะรัฐประหารขอเวลาไม่นาน โดยจัดเลือกตั้งในวันที่ 22 มีนาคม 2535

แม้แต่ยุค บิ๊กบัง-พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เคลื่อนรถถัง ยึดอำนาจรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 19 กันยายน 2549

ก็มีการขอเวลาอีกไม่นานเหมือนกัน แค่ปีกว่า

23 ธันวาคม 2550 การเลือกตั้งทั่วไปก็มีขึ้น ผ่องถ่ายคืนอำนาจประชาชนอย่างรวดเร็ว

แตกต่างจากครั้งนี้-ทอดยาวกินเวลา 4 ปี 6 เดือน

ด้วยเหตุผลข้ออ้าง ไม่ต้องการให้เสียของ ต้องใช้เวลาปฏิรูปด้านต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง

หนำซ้ำ ยังวางยุทธศาสตร์ ตีกรอบรัฐบาลชุดต่อไป เดินตามลายแทง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่เขียนไว้

แถมมีกฎหมายแม่บทกำกับไว้อีกชั้น

ยึดไปร้อย คืนอำนาจครึ่งๆ กลางๆ ไม่เต็มใบ

ในภาวะที่น่าเชื่อได้ว่า ผู้คนจำนวนไม่น้อยอึดอัดจากการถูกกดทับ ไม่มีสิทธิ มีเสียง มีส่วนร่วม ขณะเดียวกันก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ

ปัญหาอะไรต่อมิอะไรที่ถาโถมเข้าใส่

เมื่อนายกฯประกาศ ยืนยัน เดือน วันเลือกตั้งชัดเจน

ภาคส่วนต่างๆ จึงพร้อมใจขานรับข่าวดี ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ ฝ่ายการเมือง ตลาดทุน และโดยเฉพาะประชาชน ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการบริหารจากนโยบายของรัฐบาล คสช.

ขานรับด้วยความลิงโลด ดีใจ แม้รู้ซึ้งแก่ใจถึงกติกาการเมืองใหม่

อำนาจของพลเมือง เจ้าของอำนาจแท้จริงถูกแบ่งไป

พรรคการเมืองชนะเลือกตั้ง กวาดที่นั่ง ส.ส.สูงสุดในสภา แม้เกินครึ่ง ครองเสียงส่วนใหญ่ของจำนวน ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง

แต่ก็ไม่เพียงพอ ไม่มีหลักประกันอันใด ว่าจะได้เป็นแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล ยึดครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอย่างที่ควรจะเป็น

ตามผลการเลือกตั้ง เสียงสวรรค์ของประชาชน

เมื่อต้องได้รับเสียงสนับสนุนฉันทานุมัติจาก ส.ว.แต่งตั้งอีกชั้น

แต่กระนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ก็แสดงความดีใจ เมื่อโรดแมป เดือน-ปี เลือกตั้งชัดเจน

เมื่อจะได้ใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง เลือกพรรค-เลือกนโยบาย-เลือกนายกฯ ที่นิยมชมชอบ

ไปพร้อมๆ กับการตัดสินลงโทษ-สั่งสอน

ผลการเลือกตั้งทั่วไปปี 2561 จึงมากด้วยความหมาย

มากยิ่งกว่าจะได้ใครเป็นนายกฯ ที่ไม่น่าเชื่อว่า พ.ศ.นี้ คนนอก-กับคนใน คนที่มาจากการเลือกตั้งและมิได้มาจากการเลือกตั้ง มีสิทธิเท่าๆ กัน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image