นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทำให้เกิดความตื่นตัวทั้งภาครัฐและเอกชน มีการเริ่มดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2559-2579 ซึ่งประกอบด้วยแผนแม่บทที่สำคัญในด้านต่างๆ โดยแผนแม่บทที่มีความคืบหน้าในการดำเนินงานอย่างชัดเจน ได้แก่ แผนแม่บทด้านคมนาคมขนส่ง ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ (พ.ศ.2558-2565) วงเงินงบประมาณ 2 ปีแรกประมาณ 2 ล้านล้านบาท และแผนแม่บทการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ตามแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (พ.ศ.2560-2564) วงเงินลงทุน 1.5 ล้านล้านบาท
เมื่อพิจารณาถึงวงเงินที่จะต้องใช้ในการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีแล้ว จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยเน้นทางด้านกายภาพ ซึ่งจะส่งผลให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในหลายด้าน การเดินทางไปมาหาสู่กันสะดวกมากขึ้น ที่สำคัญคือมีรายได้มากขึ้น แต่แทบจะไม่มีการระบุถึง การดำเนินการเพื่อทำให้การใช้ชีวิตของประชาชน (ทั้งในเมืองและชนบท) ในด้านต่างๆ มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นเลย
การใช้ชีวิตอยู่รวมกันเป็นสังคม จำเป็นต้องมีการควบคุมในเรื่องต่างๆ โดยการออกระเบียบ กฎเกณฑ์มาบังคับใช้ และมีมาตรการในการบังคับใช้ให้เห็นผล ซึ่งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สังคมพัฒนาเป็นอารยประเทศ ที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีความสุข และดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัย
การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ของผู้คนในสังคมของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน อาจจะถือได้ว่าต่ำกว่ามาตรฐานของนานาอารยประเทศ เนื่องมาจากความไม่สมบูรณ์ของกฎหมาย ความหย่อนยานในการบังคับใช้ของผู้รักษากฎหมาย รวมถึงมาตรการต่างๆ ในการปฏิบัติไม่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งจากอุบัติเหตุ อุบัติภัย ภัยธรรมชาติ ตลอดจนการทะเลาะวิวาท ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ
จึงขอให้ผู้บริหารประเทศเพิ่มมาตรการเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหน้าที่โดยตรงบังคับใช้กฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่มีอยู่อย่างเข้มงวดและต่อเนื่องในเรื่องต่างๆ ดังนี้
อุบัติเหตุ
-ผู้ขับขี่รถสาธารณะทุกประเภท ต้องถูกตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ผ่านการฝึกอบรม ก่อนได้รับใบอนุญาต และต้องกลับมารายงานตัวเพื่อทบทวนและทดสอบอีกตามระยะเวลาที่กำหนด
-การให้บริการขนส่งสาธารณะ (เช่น รถโดยสาร รถบรรทุก เป็นต้น) คนขับรถจะต้องถูกควบคุมอย่างเข้มงวด ด้วยกฎเกณฑ์เรื่องระยะเวลาการเดินทาง
-รถสาธารณะทุกประเภท ต้องได้รับการตรวจสภาพตามกำหนดระยะทางหรือระยะเวลา (ตรวจมากครั้งกว่ารถส่วนตัว)
-ป้าย เครื่องหมาย สัญญาณไฟ ที่ใช้สำหรับการจราจรทุกประเภทจะต้องได้รับการดูแลให้มีความถูกต้อง สภาพสมบูรณ์ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญญาณสำหรับการจราจรบริเวณที่ทางรถยนต์ตัดกับทางรถไฟ (ซึ่งควรจะลดจำนวนลงให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้) รวมทั้งรื้อถอนป้ายที่ชำรุดและไม่ถูกต้องออกไปทั้งหมด
-เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ต้องตรวจตราดูแลไม่ให้มีการรุกล้ำเข้าใช้พื้นที่บริเวณสองข้างทางสาธารณะทุกประเภทโดยเด็ดขาด
-ในกรณีของถนนในเมือง ต้องปรับพื้นผิวของบาทวิถีให้เรียบ และทำให้เป็นพื้นที่ของคนเดินเท้าเท่านั้น
-ตรวจสภาพถนน สะพาน ตอม่อทางด่วน ฯลฯ อยู่เสมอตามกำหนดเวลา
-เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎ ระเบียบต่างๆ และไม่ละเลยเมื่อพบผู้กระทำผิด
อุบัติภัย
-ตรวจสภาพอาคารสูงอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงทดสอบระบบการป้องกันอัคคีภัย ระบบหนีภัย ตามกำหนดเวลาเพื่อให้สามารถใช้การได้ตลอดเวลา
-จัดให้มีการฝึกซ้อมการหนีภัยจากอาคารสูงตามระยะเวลาที่กำหนด
ภัยธรรมชาติ
-จัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการพยากรณ์สภาพอากาศที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถรายงานข้อมูลต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และสามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้เป็นระยะเวลานานพอสมควร
-จัดหาและติดตั้งเครื่องมือรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภัยธรรมชาติ (เช่น น้ำท่วม ดินถล่ม เป็นต้น) ในพื้นที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงกับการเกิดเหตุเหล่านั้น
-กำลังคน เครื่องมือ อุปกรณ์ ยานพาหนะ ที่ต้องใช้ในการบรรเทาสาธารณภัย จะต้องจัดหาให้มีอยู่อย่างเพียงพอในทุกจังหวัด รวมถึงจัดทำแผนและฝึกซ้อมการเคลื่อนย้ายประชาชนในกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติ
การทะเลาะวิวาท
-แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยยกเลิกการอนุญาตให้ประชาชนพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และเพิ่มโทษผู้ครอบครอง (โดยผิดกฎหมาย) พกพา และใช้อาวุธปืนทำร้ายผู้อื่น
-เพิ่มมาตรการตรวจค้นการพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ และดำเนินการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
ถ้าได้ดำเนินการตามเสนอ คงจะทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากสาเหตุต่างๆ ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ (ซึ่งบางกรณีอาจจะต้องรักษาพยาบาลไปจนตลอดชีวิต) ลดลง คนไทยจะมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม มีความปลอดภัยในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น
รวมถึงจะส่งผลทางอ้อมทำให้นักท่องเที่ยว เดินทางมาเยี่ยมประเทศของเราเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์