สมเด็จพระเทพฯทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพื้นที่จริงครั้งที่ 2

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ถนนมหาราช ถนนท้ายวัง ถนนสนามไชย ตลอดจนถนนราชดำเนินในบริเวณข้างมณฑลพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในการซ้อมการเดินริ้วขบวนที่ 1, 2 และ 3 และริ้วขบวนที่ 6 เสมือนจริง ณ พื้นที่จริงและตามเวลาหมายกำหนดการจริงครั้งที่ 2

โดยมีพระวงศานุวงศ์ ราชสกุล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม องค์กร มูลนิธิ โรงเรียน รวมถึงทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 3,000 คน

Advertisement

Advertisement

 

นายประพันธ์ รอ ณ รังษี อายุ 63 ปี มาพร้อมภรรยา นางหริ่ม รอ ณ รังษี อายุ 63 ปี ชาวอ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ กล่าวร่วมกันด้วยสีหน้าปลาบปลื้มว่า เราเดินทางจากชัยภูมิตั้งแต่ 18.00 น. วันที่ 14 ตุลาคมด้วยรถประจำทางถึงสนามหลวงในเวลา 03.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม เพราะตั้งใจว่าอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต เนื่องด้วยในการซ้อมครั้งที่แล้วได้ดูจากข่าวเลยสนใจ และจะไม่มีโอกาสมาชมอีกแล้ว เพราะสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ไว้ ต้องปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 18-30 ตุลาคม อาจไม่ได้มางานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ซึ่งหลังจากได้ชมริ้วขบวนก็สมดั่งที่ตั้งใจ เพราะพระมหาพิชัยราชรถ และราชรถน้อยตกแต่งได้สวยสดงดงามสมพระเกียรติ ผู้เดินในริ้วขบวนก็มีความพร้อมเพรียง และสวมใส่เครื่องแบบที่สวยงามโดยเฉพาะทหาร

นางหริ่ม – นายประพันธ์ รอ ณ รังษี

นางสาวจารุณี นุชสุดสวาท อายุ 37 ปี อาชีพรับราชการ ชาวนครไชยศรี จังหวัดนครปฐม น้ำตาคลอเบ้ากอดพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ไว้แนบอกเปิดเผยความรู้สึกว่า ติดตามข่าวงานพระราชพิธีมาโดยตลอดจึงตั้งใจจะมาชมการซ้อมริ้วขบวนทุกครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่มีโอกาสได้มา แม้ริ้วขบวนจะมีความยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ แต่รู้สึกใจหายมาก ที่ผ่านมาได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ จำนวน 113 ครั้ง รอนานที่สุดคือช่วงใกล้ปีใหม่ ใช้เวลา 15 ชั่วโมงโดยไม่รู้สึกเหนื่อยหรือท้อใดๆ

สำหรับการซ้อมใหญ่วันที่ 21 ตุลาคมนี้ ตั้งใจจะมารอล่วงหน้าตั้งแต่คืนวันที่ 20 ตุลาคม และวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตั้งใจมารอตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมนี้

นางสาวจารุณี นุชสุดสวาท

นางเขียว ศรีไกลสุข ชาวจ.จันทบุรี อายุ 85 ปี กล่าวพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอยู่ตลอดเวลาว่า ตนขอให้ลูกสาวพามารอชมริ้วขบวน ถึงจะลำบากอย่างไรก็ตั้งใจจะมา ไม่ย่อท้อ เพราะในหลวงร.9 ทรงทำงานหนักเพื่อประชาชนคนไทยมาตลอดชีวิต ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ใกล้ชิดประชาชน โดยตนเองเคยรับเสด็จในหลวงร.9 หลายครั้ง

จำได้ว่า ครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปยังจ.จันทบุรี จากนั้นทรงสร้างแก้มลิงเพื่อเก็บกักน้ำช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม ทำให้คน จ.จันทบุรี สามารถทำนาปลูกข้าวได้ จากเดิมที่พอเกิดน้ำท่วม ชาวนาจะไม่มีข้าวเพียงพอที่จะใช้กินได้ตลอด ทำให้บางทีต้องอดมื้อกินมื้อ แต่เมื่อทรงสร้างแก้มลิง แก้ปัญหาน้ำท่วมชาวจ.จันทบุรี ก็สามารถทำมาหากินได้ดีขึ้น ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ใกล้ชิดประชาชน

ครั้งหนึ่งตนนั่งเฝ้าฯ รับเสด็จอยู่ริมทาง จำได้ว่าตอนนั้นรถพระที่นั่งจอดตรงหน้า จากนั้นพระองค์เสด็จลงจากรถพระที่นั่ง ลงมาหาประชาชนทรงมีพระราชดำรัสสอบถามถึงปัญหาต่างๆ ทำให้ตนรู้สึกรักเทิดทูนพระองค์เป็นอย่างมาก แม้จะลำบากอย่างไร ก็ไม่ทิ้งประชาชน

นางเขียว ศรีไกลสุข

นางสมนึก เงินมงคล อายุ 77 ปี เดินทางมาจากย่านดินแดง กล่าวว่า ตนมาสายจึงมาจองพื้นที่ด้านหน้าไม่ทัน ทำให้ขณะที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่าน มองเห็นได้ไม่ชัด แต่ก็รู้สึกว่า ต้องมาเพราะอยากมามีส่วนร่วมส่งเสด็จ ในหลวง ร.9 เป็นครั้งสุดท้าย โดยในวันที่ 21 ตุลาคม ตั้งใจจะมาชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศอีกครั้ง เพราะไม่แน่ใจว่าวันที่ 26 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะมีโอกาสได้เห็นหรือไม่ เพราะประชาชนจากทั่วสารทิศคงจะหลั่งไหลเข้ามายังมณฑลพิธี เพื่อน้อมส่งเสด็จสู่สรวงสรรค์

นางสมนึก เงินมงคล

นางปราณี ยวดยง ชาวสมุทรปราการ อายุ 73 ปี กล่าวว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับลูกสาว มีโอกาสได้เห็นริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญยังดีใจที่ได้ชื่นชมพระบารมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างใกล้ชิด แม้จะรู้สึกปลื้มใจ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นงานที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

“ดิฉันออกจากบ้านตั้งแต่ 05.00 น. มาถึงสนามหลวงประมาณ 06.00 น. จากนั้นก็เดินมาเรื่อยๆ จนได้นั่งบริเวณหน้าศาลหลักเมือง แม้อากาศจะร้อน แต่ก็ไม่ออกไปไหนเพราะตั้งใจจะรอชมริ้วขบวนสักครั้งในชีวิต ที่สำคัญยังได้เฝ้าฯ รับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ทำให้รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมากจนน้ำตาไหล

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้ากราบพระบรมศพแล้ว 3 ครั้ง และตั้งใจมารอชมริ้วขบวน ซึ่งในชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นอีก โดยตั้งใจว่า การซ้อมริ้วขบวนวันที่ 21 ตุลาคม ตั้งใจจะมาอีก ส่วนพระราชพิธีถวายพระเพลิงวันที่ 26 ตุลาคม จะเดินทางมารอตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม เพราะคงเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้มาส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9” นางปราณีกล่าว

นางปราณี ยวดยง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image