สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงยืนกรานในท่าทีต่อต้านกระแสโลกาภิวัฒน์และการค้าเสรีที่ทั่วโลกยึดถือ ขวางการเพิ่มทุนดำเนินการทั้งของ ธนาคารโลก และ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ส่งท้ายการประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟเป็นเวลา 3 วันเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
การเมินเฉยของสหรัฐอเมริกาดังกล่าวแสดงให้เห็นช่องว่างที่ถ่างกว้างมากขึ้นระหว่างแนวนโยบายให้ความสำคัญต่อสหรัฐอเมริกาสูงสุดของฝ่ายบริหารประธานาธิบดีทรัมป์กับนานาประเทศที่เหลือทั่วโลกซึ่งยังคงยึดมั่นในแนวทางโลกาภิวัฒน์และการค้าเสรี ทั้งนี้แม้ว่าจะไม่มีการแสดงถึงความขัดแย้งอย่างเปิดเผยในระหว่างการประชุมซึ่งดำเนินไปด้วยดี นายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐอเมริกา กลับปฏิเสธที่จะสนับสนุนการเพิ่มเงินทุนดำเนินการให้กับ ธนาคารโลก สำหรับใช้เพื่อขยายภารกิจต่อต้านความยากจนทั่วโลกตามคำร้องขอของนาย จิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกที่ถือว่าการเพิ่มเงินทุนเพื่อการนี้เป็นความจำเป็นเร่งด่วน ในขณะที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐอเมริกาอ้างว่า การเพิ่มเงินทุนไม่ใช่เป็นทางออกในการแก้ปัญหาดังกล่าว กลับเรียกร้องให้ใช้งบประมาณเท่าที่มีอยู่ให้กระจายออกไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และพยายามผลักดันให้ธนาคารโลกปรับปรุงเงินเดือนเจ้าหน้าที่และงบประมาณในการบริหารที่สหรัฐอ้างว่าสูงเกินไปและไม่มีวินัยในการจัดการงบประมาณขององค์กร
นอกจากนั้นสหรัฐอเมริกายังเคลื่อนไหวต่อต้านความพยายามที่จะเพิ่มเงินทุนสำหรับการปล่อยกู้ของไอเอ็มเอฟ ที่เป็นแผนซึ่งจัดทำมายาวนานแต่ไม่ประสบผลสำเร็จในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นสหรัฐอเมริกายังแสดงออกถึงท่าทีต่อต้านโลกาภิวัฒน์ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำและเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือ จี20 ที่จัดคู่ขนานกับการประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟและเวิร์ลด์แบงก์ ซึ่งปกติแล้วจะมีการหยิบยกท่าทีที่เป็นการกีดกันทางการค้าและต่อต้านการค้าเสรีขึ้นมาหารือเพื่อเตือนและขจัดท่าทีดังกล่าว ก็ถูกสหรัฐอเมริกาขวางจนไม่มีการถกกันในเรื่องนี้แต่อย่างใด
