ก.ล.ต.พบ’กรุ๊ปลีส’ทำธุรกรรมอำพราง เตรียมส่งดีเอสไอ-ปปง.

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า จากงบการเงินงวดปี 2559 ของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือจีแอล ที่ผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตเกี่ยวกับธุรกรรมการให้กู้ยืมแก่ลูกหนี้ในต่างประเทศ ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ผู้บริหารระดับสูง ให้บริษัท กรุ๊ปลีส โฮลดิ้งส์ จำกัด (จีแอลเอช) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่สิงคโปร์ ปล่อยกู้แก่บริษัทในต่างประเทศหลายแห่ง โดยพบหลักฐานว่า จีแอลเอช ให้กู้แก่บริษัทที่จดทะเบียนในไซปรัส 4 แห่ง และสิงคโปร์ 1 แห่ง เป็นเงินให้กู้รวมประมาณ 54 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีนายมิทซึจิ เป็นผู้ควบคุมและเป็นผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง โดยเมื่อบริษัททั้ง 5 แห่งได้รับเงินกู้จากจีแอลเอชไปแล้ว ได้นำไปหมุนเวียนในกลุ่มบริษัทผู้กู้เพื่อชำระค่าดอกเบี้ยและเงินต้นคืนแก่จีแอลเอชเป็นงวดๆ ซึ่งยอดดอกเบี้ยถูกนำไปรวมเป็นรายได้ในงบการเงิน อันเป็นการแต่งบัญชีและสร้างผลประกอบการของกรุ๊ปลีสให้สูงเกินจริง

ซึ่งการกระทำของนายมิทซึจิ เป็นการทำธุรกรรมอำพราง การยักยอก ยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จในบัญชีและทำบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริง รวมถึงบอกกล่าว เผยแพร่ ข้อความเท็จ ส่งผลกระทบต่อราคาหรือการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ ตลอดจนขัดแย้งกับข้อมูลที่จีแอลชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 13 มีนาคม 2560 และการแถลงข่าวของนายมิทซึจิ ในวันที่ 14 มีนาคม 2560 ที่ยืนยันว่า บริษัทผู้กู้ในต่างประเทศไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับตนเอง จึงเข้าข่ายเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และซื่อสัตย์สุจริต ตามมาตรา 307 มาตรา 308 มาตรา 311 มาตรา 312 และ มาตรา 313 และมาตรา 281/2 วรรคสอง ประกอบมาตรา 89/7 ซึ่งอาจต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับเป็นเงิน 2 เท่าของราคาทรัพย์สิน หรือประโยชน์ที่บุคคลดังกล่าว ได้กระทำการฝ่าฝืนมาตรานั้น ๆ แล้วแต่กรณี แต่ทั้งนี้ค่าปรับดังกล่าวต้องไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์่ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2559 ก.ล.ต.จึงกล่าวโทษนายมิทซึจิ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับกรณีกรุ๊ปลีสข้างต้น

ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายหลักทรัพย์ และอาจเป็นการยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานแห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ก.ล.ต.จึงแจ้งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image