เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเข้าร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา เห็นว่าการซ้อมดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าท่ามกลางแดดร้อน แต่ไม่มีใครท้อถอย ผู้ร่วมขบวนพลฉุดชักและราชรถพระนำ ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันสังเกตได้ว่าประชาชนที่มาร่วมชมการซ้อมดังกล่าวแต่งกายด้วยชุดเรียบร้อยสีดำล้วน แต่ถ้าไม่ใช้ร่มที่มีสีสัน จะถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก จึงอยากขอความร่วมมือขอให้ใช้ร่มสีดำหรือสีเทามาใช้กางกันแดดทั้งในการร่วมชมการซ้อมและในวันพระราชพิธีจริง โดยภาพในงานดังกล่าวจะถูกถ่ายทอดไปยังทั่วโลก ทุกคนก็จะได้เห็นว่าคนไทยทุกคนถวายพระเกียรติยศอย่างสูงที่สุด
นางพัชราภรณ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พบว่าระหว่างการเคลื่อนริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ที่ 2 พบว่าเสียงกลองดังไม่ค่อยชัด โดยมีเสียงซ้อนกับเสียงปี่พาทย์และเสียงอื่นๆ แต่ทุกคนก็ยังเดินจังหวะเปลี่ยนเท้าได้ต่อไป แต่เมื่อเข้าสู่การเปลี่ยนเข้าริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ที่ 3 ซึ่งเป็นการเวียนรอบพระเมรุมาศ โดยในส่วนนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้มีรับสั่งกับนายกรัฐมนตรีว่าต้องปรับการบรรเลงดนตรีที่ประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือการบรรเลงเพลงบัวลอย กลองใหญ่ และปี่พาทย์ โดยสมเด็จพระเทพฯ รับสั่งว่าด้านหลังขบวนจะไม่ได้ยินเสียงจากจังหวะกลองเลย จึงจะขอให้ใช้เสียงกลองใหญ่เป็นเสียงนำ ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้รับเรื่องนี้ไปดำเนินการปรับปรุง ทั้งนี้ จากการที่จะมีการซ้อมใหญ่เสมือนจริงในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ น่าจะได้ปรับปรุงเรื่องดังกล่าว และทุกอย่างจะมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น
นางพัชราภรณ์กล่าวว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้ทำบัตรเชิญสำหรับผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ โดยจัดพิมพ์จำนวน 5,000 ใบ ซึ่งหน้าปกของบัตรเชิญเป็นภาพของพระเมรุมาศ บนพื้นสีเทา ขณะที่ปกหลังจะเป็นตราสำนักนายกรัฐมนตรี โดยบัตรเชิญดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่า เนื่องจาก สมเด็จพระเทพฯได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานลายขอบที่เป็นลายไทยซึ่งกรมศิลปากรจัดทำมาให้ทรงเลือก ให้ไปปรากฏบนบัตรเชิญ อีกทั้ง จากการที่คณะกรรมการจัดทำบัตรเชิญของสปน. ได้ส่งร่างถ้อยคำในบัตร กราบบังคมทูลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ได้มีพระมหากรุณาธิคุณปรับแก้ไขถ้อยคำดังกล่าวทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากเดิมที่ระบุเพียง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” ให้เพิ่มคำว่า “ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และไม่มีบัตรเชิญใดในโลกใบนี้ที่พระราชโอรสและพระราชธิดาทรงทำถวายสมเด็จพระบรมราชชนก ซึ่งตนอยากให้คนไทยได้รับทราบ พร้อมกับซาบซึ้งในสิ่งที่ทั้งสองพระองค์ทรงทำไว้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) หวังว่าผู้ที่ได้รับบัตรเชิญดังกล่าวจะเทิดทูนไว้เป็นสิ่งสูงสุด
นางพัชราภรณ์กล่าวว่า สำหรับการเข้าพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเริ่มจำกัดตั้งแต่คืนวันที่ 25 ต.ค. โดยจะยกเลิกการเข้าพื้นที่ด้วยบัตรต่างๆ ที่มีอยู่ โดยจะจำกัดให้เฉพาะผู้ที่ต้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ และจะมีการใช้บัตรผ่านที่ทำขึ้นเป็นการเฉพาะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยได้กำหนดจุดรวมพล และผู้ที่จะขับรถเข้าไปยังจุดรวมพลก็ต้องมีบัตรผ่านเฉพาะที่ระบุว่าจะสามารถจอดรถสถานที่ใดได้บ้างตามที่กำหนดในบัตรดังกล่าว จากนั้นจะมีการจัดรถชัตเทิลบัสเข้าไปส่งในพื้นที่ท้องสนามหลวง
