‘เฟซบุ๊ก-ไลน์-กูเกิล-ยูทูบ’ ปี 61ต้องจ่ายภาษีร้อยละ 15 “ปลัดคลัง” ดันกม.อีคอมเมิร์ซ เก็บภาษีสื่อออนไลน์

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้กรมสรรพากรเร่งขยายฐานภาษี พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ เพื่อเพิ่มยอดการจัดเก็บรายได้ หลังจากหลายปีงบประมาณที่ผ่านมา การจัดเก็บรายได้ของกรมอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายเฉลี่ยปีละ 1 แสนล้านบาท “ในปีงบประมาณนี้ที่กรมสรรพากรต้องทำงานหนักๆ คือ การขยายฐานภาษี โดยนำผู้มีรายได้เข้ามาอยู่ในระบบ ทั้งในส่วนของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล กรณีของบุคคลธรรมดานั้นมีฐานภาษีอยู่ 20-30 ล้านคน แต่มีคนที่เสียภาษีจริงๆ อยู่ 6-7 ล้านคนเท่านั้น ส่วนนิติบุคคลจำนวนบริษัทที่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีมีจำนวนมาก แต่ที่ยื่นภาษีจริงมีน้อย ฉะนั้น ปีงบประมาณนี้เป็นปีที่สรรพากรจะต้องทำงานหนักมากขึ้น”

นายสมชัยกล่าวว่า สำหรับการขยายฐานภาษีเงินได้นิติบุคคลจะพุ่งเป้าไปที่บุคคลธรรมดาที่ทำธุรกิจจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เช่น ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าทอง ร้านแว่นตา ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่ยังยื่นแสดงรายได้แบบบุคคลธรรมดา ให้หันมายื่นแสดงรายได้เป็นนิติบุคคลแทน นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบธุรกิจปล่อยกู้นอกระบบที่จะเข้ามาอยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้อง จากนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบผ่านการอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวเข้ามาจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ด้วย

“แม้ปีงบที่ผ่านมา รายได้กรมสรรพากรอาจต่ำเป้าหมายมาก แต่ความพยายามเพิ่มฐานภาษีน่าจะช่วยให้ได้ภาษีตามเป้า และอีกส่วนที่จะทำให้รายได้กรมสรรพากรดีขึ้น คือการออกกฎหมายจัดเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซ เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาอนุมัติเพื่อเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พยายามผลักดันให้กฎหมายมีผลในปี 2561 ทำให้ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจในไทยกลุ่มสื่อออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก กูเกิล ยูทูบ ไลน์ ถ้ามีรายได้ในไทยต้องเสียภาษีในอัตรา 15%” นายสมชัยกล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image