ฝนที่ตกหนักเป็นวงกว้างทั่วพื้นที่ จ.พิษณุโลกอีกครั้งตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมากระทั่งเช้าวันนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ล้นคลองน้ำปาด ไหลเข้าท่วมโรงเรียนบ้านน้ำปาด หมู่ 2 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก อีกครั้ง นับเป็นรอบที่ 10 ในรอบปี 2560 แล้ว
เวลา 06.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2560 จากสถานการณ์ฝนที่ตกหนักเป็นวงกว้างทั่วพื้นที่ จ.พิษณุโลกอีกครั้งตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมากระทั่งเช้าวันนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ล้นคลองน้ำปาด ไหลเข้าท่วมโรงเรียนบ้านน้ำปาด หมู่ 2 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก อีกครั้ง นับเป็นรอบที่ 10 ในรอบปี 2560 แล้ว หลังจากโรงเรียนเจอน้ำป่าครั้งล่าสุดที่ท่วมในระดับสูงสุดนับก่อตั้งโรงเรียนมาเมื่อ 16 กันยายน 2560
ว่าที่ร้อยตรีเกตุ ต่วนเครือ ผู้อำนวยการบ้านน้ำปาด หมู่ 2 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า เมื่อคืนมีฝนตกหนักมากบนเขาชมพู ที่เป็นต้นน้ำของคลองน้ำปาด และไหลลงมาสู่คลองน้ำปาดที่บ้านน้ำปาดหมู่ 2 น้ำได้ล้นคลองเริ่มไหลเข้ามาท่วมพื้นบริเวณโรงเรียนในเวลาประมาณ 05.00 น. ครั้งนี้สูงไม่เท่าครั้งที่ 9 แต่ก็ท่วมทั่วพื้นที่โรงเรียน จุดที่ต่ำสุดของโรงเรียนบริเวณบ้านพักครูและโรงอาหาร น้ำท่วมสูง 1.5 เมตร ช่วงนี้ปิดเทอม และได้เตรียมการยกอุปกรณ์การเรียนการสอนขึ้นสู่ที่สูงไว้แล้ว จึงไม่มีอะไรเสียหายมาก จะมีเพียงโต๊ะ เก้าอี้บางส่วน ที่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากวานนี้โรงเรียนมีกิจกรรมนักเรียนมาร่วมซักซ้อมการรำ เพื่อเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของอำเภอเนินมะปราง ซึ่งคาดว่าน้ำป่าที่ท่วมวันนี้ จะค่อยๆ ลดระดับลงและน่าจะแห้งในเวลาประมาณ 09.00 น. ซึ่งคงต้องระดมนักเรียน ชาวบ้าน และ จนท.จาก อบต.ชมพู มาช่วยกันทำความสะอาดคราบโคลนต่อไป เพราะต้องรีบฉีดน้ำล้าง ถ้าปล่อยให้แห้งจะทำความสะอาดยาก
ผอ.โรงเรียนบ้านน้ำปาดเปิดเผยว่า น้ำที่ท่วมโรงเรียนบ้านน้ำปาดเป็นประจำเป็นน้ำที่ล้นมาจากคลองน้ำปาด ในหมู่บ้านน้ำปาดเหนือโรงเรียน และมักจะมาเอ่อล้นท่วมขังในโรงเรียน เนื่องจากมีถนนสายพิษณุโลก-เนินมะปราง หน้าโรงเรียนขวางกั้น บริเวณหน้าประตูโรงเรียนมีเพียงท่อลอด 2 ท่อ เส้นผ่านศูนย์กลาง 80 เซนเติเมตร ทำให้การระบายน้ำออกจากบริเวณโรงเรียนเป็นไปได้ช้าและส่งผลให้น้ำท่วมสูง ที่ผ่านมาเคยมีความพยายามแก้ไขปัญหาในปี 2554 สมัยนายปรีชา เรืองจันทร์ เป็น ผวจ.พิษณุโลก ได้อนุมัติงบประมาณ 3.8 แสนบาท เพื่อทำบล็อกระบายน้ำบริเวณหน้าโรงเรียน แต่ติดปัญหาผลกระทบของชาวบ้านที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน เกรงว่าน้ำจะไหลมาแรงและจะส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ด้านท้ายบล็อกระบายน้ำ งบประมาณส่วนนี้จึงไม่ได้ถูกนำมาใช้
