ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนฯ ยู เมื่อวันเสาร์เป็นเกม 0-0 ที่ดูได้ แต่ก็ไม่ใช่เกมที่ดีนัก ออกจะน่าผิดหวังนิดๆ ซะด้วยซ้ำ
ทัศนคติในการเล่นของ 2 กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ และ โจเซ่ มูรินโญ่ ไม่สร้างสรรค์ “ไม่กล้า” พอกันทั้งคู่
มูรินโญ่วางแผนมา จอดรถบัส อุดประตูเป็นหลัก ขณะที่คล็อปป์เองก็ไม่ยอมเสี่ยงเปิดเกมรุกเต็มตัว แม้ว่าจังหวะของเกมจะเป็นใจเหลือเกิน
ช่วงกลางครึ่งหลัง ผมเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า ถ้าคล็อปป์ถอดกองกลางออกสักคน แล้วปรับมาเล่น หน้าคู่ เพิ่มความเข้มข้นในแนวรุกอีกแค่นิดเดียว ลิเวอร์พูลน่าจะยิงประตูได้ และเก็บ 3 แต้มเข้ากระเป๋าไม่ยาก
แต่กุนซือหงส์ กลัวผิด กลัวแพ้ มากไป กว่าจะเปลี่ยน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ลงมาก็เหลือแค่สิบกว่านาที แถมยังเล่นหน้าเป้าตัวเดียวเหมือนเดิมอีกต่างหาก
เสียดายโอกาสของลิเวอร์พูลนะครับ
ส่วนทางยูไนเต็ด เสมอนัดนี้อาจจะไม่ถูกใจแฟนๆ เพราะปล่อยแต้มหลุดมือจนโดน แมนฯ ซิตี้ ขยับหนีออกไป แต่มันก็เป็นแนวทางของมูรินโญ่ที่กะสู้ระยะยาว เก็บคะแนนแบบสะสมทรัพย์ นัดไหนความเสี่ยงสูงก็ยอมถอย 1 ก้าว มาเอาแต้มเดียวชัวร์ๆ ดีกว่าไม่มีอะไรติดมือ
กุนซือเขี้ยวลากอย่าง จ่ามู ทำประตู จนไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วต่อไปก็ไม่แน่ว่า 1 คะแนนจากแอนฟิลด์ อาจจะมีผลต่อการลุ้นแชมป์ของแมนฯ ยู ในช่วงท้ายจริงๆ ก็ได้
แต่ถ้ายูไนเต็ดเล่นเซฟบ่อยๆ และเซฟแบบแทบไม่คิดจะสวนอย่างนัดเจอลิเวอร์พูล ก็น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน
บอลยุคนี้ถึงเล่นเกมรับ ก็ต้องรับแบบรอจังหวะ หวังเอาชนะด้วย ไม่ใช่เอะอะก็ PARK THE BUS รอให้จบเกมท่าเดียว
เขี้ยวมากไปไล่แมนฯ ซิตี้ ลำบาก รายนั้นเขาไม่คิดเยอะ นอกบ้าน-ในบ้าน ก็บุกแหลก ยิงแหลก ตั้งเป้าเอา 3 แต้มทุกนัด
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ โจเซ่ มูรินโญ่ คือสองยอดกุนซือ แต่หลักการ, วิธีคิดแตกต่างกันมากนัก