‘จากธุลีดินถึงจักรวาลของพ่อ’ รำลึก-อาลัย ในหลวงรัชกาลที่ 9

จากการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจแก่พสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดิน

เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยถวายในวาระครบรอบ 1 ปีแห่งการสวรรคต ประชาชนชาวไทยตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ต่างร่วมแสดงพลังในรูปแบบต่างๆ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

รวมถึง “ช่างชุ่ย” ที่ได้จัดกิจกรรม “จากธุลีดินถึงจักรวาลของพ่อ” กิจกรรมพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากในหลวงรัชกาลที่ 9

Advertisement

สมชัย ส่งวัฒนา ผู้ก่อตั้งช่างชุ่ย ระบุว่า เดือนตุลาคมเป็นเดือนแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งของประเทศไทยที่ทุกคนต้องจดจำและจารึกไว้ ประกอบกับช่างชุ่ยมีพื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์ มีบุคลากรที่เป็นศิลปิน เป็นนักออกแบบ ก็น่าจะรวบรวมผลงานที่ดีได้ เราจึงคิดว่าควรจะทำอะไรเพื่อถวายแด่พระองค์ท่านสักครั้งในเดือนนี้ ถึงแม้พระองค์ท่านจะจากไปแล้ว แต่คำสอน แนวทางปฏิบัติที่เป็นสัจจะหรือความจริง และสิ่งที่พระองค์สร้างสรรค์ไว้จะเป็นอมตะอยู่ชั่วกาลนาน เมื่อทุกคนน้อมนำไปใช้ชีวิตก็จะมีความสุขความเจริญและความรุ่งเรือง

“ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของเดือนตุลาคม ช่างชุ่ยจึงจัดนิทรรศการ “จากธุลีดินถึงจักรวาลของพ่อ” ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นดนตรีและการรวมตัวของมวลศิลปินมาร่วมบรรเลงเพลงสายฝน มีเรื่องอาหารของพ่อ หนังสือของพ่อ สารคดี ยังมีนิทรรศการจากส่วนต่างๆ เช่นนิทรรศการ “ละออง” เพื่อถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ใช้พื้นที่อาคาร อาเหนก ป้าสง เกือบ 700 ตารางเมตร รวบรวมผลงานศิลปะร่วมสมัย โดยศิลปินกว่า 70 ชีวิต มารวมตัวกันเป็นพลังยิ่งใหญ่ ทำด้วยหัวใจที่จงรักภักดี สร้างผลงาน โดยความหมายของนิทรรศการคือ ละออง ที่อยู่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และพวกเราคือประชาชนของพระองค์ท่าน”

“นิทรรศการจะดีมากหรือน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ทุกคนมาร่วมกันทำด้วยใจเป็นเรื่องสำคัญ ผมมองว่าการทำงานครั้งนี้เป็นการรวมใจที่อยากจะเชิญชวนคนไทยทุกคนมาร่วมสร้างประสบการณ์ มาแสดงพลังเพื่อถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ร่วมกัน” สมชัยทิ้งท้าย

Advertisement

สำหรับกิจกรรม “จากธุลีดินถึงจักรวาลของพ่อ” ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบด้วยกิจกรรมมากมาย

ส่วนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9

นิทรรศการ “ละออง” ส่งความคิดถึงจากดวงใจ ผ่านผลงานศิลปะเพื่อเฉลิมพระเกียรติโดยศิลปินไทยกว่า 70 ชีวิต จากนิตยสาร art4d จัดขึ้นบริเวณอาคาร “อาเหนก ป้าสง”

ประธาน ธีระธาดา บก.บห.นิตยสาร art4d เล่าถึงที่มาที่ไปของนิทรรศการครั้งนี้ว่า ย้อนไปเดือนตุลาคม 2559 ทางกองบรรณาธิการได้ทำนิตยสารอยู่ในช่วงกำลังเตรียมปิดเล่มที่จะออกเดือนตุลาคม พอมีข่าวการสวรรคต รู้สึกว่าจะจัดการกับสิ่งที่เกิดยังไง ก็ได้ยกเลิกสิ่งที่เราทำทั้งหมด แล้วติดต่อไปยังศิลปินในเครือข่ายที่มีให้ส่งงานมาด่วนที่สุดใน 1-2 วัน

“ตอนแรกคิดว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ปรากฏว่าทุกคนส่งมา ในที่สุดก็จัดพิมพ์ออกมาเป็นเล่มพิเศษ แล้วงานออกมาดีมากจนเรารู้สึกว่าแค่พิมพ์อย่างเดียวน่าเสียดายมาก ก็อยากจะนำมาจัดแสดง เป็นที่มาของนิทรรศการ “ละออง” ในครั้งนี้” ประธานอธิบาย

นิทรรศการ “ละออง” ผลงานศิลปะโดยศิลปินไทยกว่า 73 ชีวิต จากนิตยสาร art4d

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการ “HEART WORK” จากนิตยสาร happening โดยนำแรงบันดาลใจจาก “การงาน” ของในหลวง ร.9 มาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะ จัดแสดงที่อาคาร “ช่างเชื่อม Live House”

นิทรรศการ “๕๙ เมตตาแห่งพระบารมี” จากสมบัติผลัดกันชม ซึ่งนำงานศิลปะที่มีทั้งภาพวาดและรูปปั้นจากศิลปินทั้งรุ่นกลางและรุ่นใหญ่จากมหาวิทยาลัยศิลปากรมาจัดแสดง โดยไฮไลต์ของนิทรรศการนี้ คือ ผลงานปั้นจาก อาจารย์วัชระ ประยูรคำ ศิลปินชั้นแนวหน้าของประเทศไทยกว่า 30 ชุด อาทิ ผลงาน “มหากษัตริย์นักพัฒนา งานต้นแบบชุดประวัติศาสตร์” เป็นชิ้นต้นแบบจากหุ่นขี้ผึ้ง ก่อนจะนำไปหล่อเป็นรูปปั้น, ผลงาน “ในหลวงทรงผนวช” ทำจากวัสดุซิลิคอนบรอนซ์, ผลงาน “รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรป” ทำจากวัสดุ ซิลิคอนบรอนซ์ เป็นต้น โดยนิทรรศการเปิดให้เข้าชมและจัดจำหน่ายที่อาคาร “สมบัติผลัดกันชม แกลเลอรี่”

ส่วนกิจกรรมเสวนา

โครงการ “พอแล้วดี The Creator” จัดเสวนา “พอแล้วดี” โดยมี 7 นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ปฏิบัติตัวบนแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ว่าจะเป็น อุกฤษฎ์ วงษ์ทองสาลี จากจันทรโภชนา, เอกกมล ธีปฏิกานนท์ จากร้านกาแฟละเอียด, เกริกกฤษณ์ กมลวิมุตศานต์ ธุรกิจข้าวเพลงรัก, ภาวลิน ลิมธงชัย เจ้าของ “หอม โฮสเทล แอนด์ คุกกิ้ง คลับ”, อติพร สังข์เจริญ จาก The Yard Hostel Bangkok, ศรุตา เกียรติภาคภูมิ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ PIN และ บุณยนุช วิทยสัมฤทธิ์ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ 31 THANWA มาร่วมพูดคุยอย่างเป็นกันเองถึงความสำคัญของการพัฒนาท้องถิ่นควบคู่กับแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์

โดยที่มาของโครงการนี้ ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการโครงการพอแล้วดี เล่าว่า ส่วนตัวมีความเชื่อในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และได้น้อมนำมาใช้ในชีวิตของตัวเอง สิ่งหนึ่งที่เราเจอเวลาทุกคนทำตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทุกคนไม่เข้าใจ มองว่าเป็นเรื่องของเกษตรผสมผสาน แต่ถ้าเป็นนักธุรกิจ เป็นศิลปินคงเอาเรื่องนี้มาใช้ไม่ได้

“เลยอยากจะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาให้เห็นว่าเรื่องของความพอเพียงเป็นเรื่องความยั่งยืนในการบริหารจัดการตัวเอง เป็นการนำเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาทำโครงการพอแล้วดี ให้คนเห็นว่าการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับการธุรกิจได้ มาใช้กับการใช้ชีวิตทุกชีวิต” ศิริกุลอธิบายถึงจุดประสงค์ของงานเสวนา

ส่วนกิจกรรมพิเศษ

ไม่เพียงแต่นิทรรศการและเสวนาเท่านั้น ยังมีกิจกรรมพิเศษที่น้อมรำลึกถึงรัชกาลที่ 9 ผ่านรูปแบบต่างๆ อีกมากมาย อาทิ การฉาย หนังของพ่อ ทั้งสารคดีพิเศษ “สู่ฟ้าเสวยสวรรค์” โดย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และภาพยนตร์สารคดี “จาริกานุสร” โดยหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)

ยังมี หนังสือของพ่อ โดยสำนักพิมพ์ มติชน รวบรวมหนังสือเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 จากหลายสำนักพิมพ์มาให้ได้ร่วมอ่านในงานกว่า 120 เล่ม และ ตลาดตามรอยพ่อ โดย “SACICT” ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน), กลุ่มเกษตรกรแบบยั่งยืน ตามแนวความคิดเศรษฐกิจพอเพียง

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม อาหารจากพ่อ ซึ่งชาวเชฟในช่างชุ่ยร่วมรังสรรค์เมนูจากใจ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระจริยวัตรและพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ร่วมกับเชฟแชมป์ หรือวศิน สายวรรณะ เสิร์ฟอาหารจากเมนู “ร้านนิลก็พอ” โดยทุกเมนูใช้ “ปลานิล” ซึ่งเป็นพันธุ์ปลาพระราชทาน หนึ่งโครงการในโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา

เมนู “ข้าวกับปลา” ประกอบด้วยข้าว 3 อย่าง คือ ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวหอมมะลิ และข้าวสังข์หยดพัทลุง ซึ่งเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมที่ปลูกใน จ.พัทลุง ปลูกได้ปีละ 1 ครั้ง นิยมกินแบบข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ซึ่งจะให้ประโยชน์มากกว่าข้าวกล้องและข้าวซ้อมมือทั่วไป รับประทานกับปลานิลดองในสมุนไพรไทยและหนังปลากรอบ แซมด้วยไข่แดงเค็ม ผักปลอดสารพิษจากโครงการหลวง และกระเทียมอบ ปราศจากเครื่องปรุงอื่นๆ นอกจากวัตถุดิบจากธรรมชาติและน้ำมันต่างๆ เพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติที่เป็นธรรมชาติจริงๆ

ยังมีอีกหลายเมนูชวนชิม ไม่ว่าจะเป็น รากบัวทอดกระเทียม, หมี่นิลน้ำ, หมี่นิลแห้ง เชิญชิมได้ที่ บริเวณกรีนโซน ณ ช่างชุ่ย

งานนี้ “ร้านใต้มุ้ง (TAI-MUNG)” ได้เปิดเมนูประจำเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นพระกระยาหารที่พ่อทรงโปรด ประกอบด้วย ผัดพริกขิงปลา, ปูต้มกะทิ, ผัดถั่วหวาน, ต้มจืดเซี่ยงจี๊ และร้าน “Insects in the Backyard” เปิดเมนู สปาเก็ตตี้มิลานเนส โดยเชฟใหม่ หรือฐิติวัชร ตันตระการ เชฟ European Cousine ประจำร้าน Insects in the Backyard (ช่างชุ่ย)

สมชัย ส่งวัฒนา

 

 

“ข้าวกับปลา” เมนูอาหารจากพ่อ

สำหรับงาน “จากธุลีดินถึงจักรวาลของพ่อ” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-29 ตุลาคม เวลา 11.00-23.00 น.ที่ช่างชุ่ย ถนนสิรินธร วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเข้าชมฟรี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image