“พาณิชย์”เผยใช้บัตรคนจนในกทม.วันแรกคึกคัก-ยันยังไม่มีการเพิ่มเงิน

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ และเป็นร้านที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีรายได้น้อยสำหรับใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยตรวจเยี่ยม 2 ร้าน คือ ร้านบางบอนซุปเปอร์เซ็นเตอร์ และร้านเซฟ-ดี มินิมาร์ท ในเขตบางบอน กรุงเทพฯ ว่า หลังแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเขตกรุงเทพปริมณฑลรวม 7 จังหวัดเป็นวันแรกนั้น ขณะนี้เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีร้านค้าติดตั้งเครื่องอีดีซีไปแล้ว 300 แห่ง จากที่มีร้านค้าสมัครร่วมโครงการแล้ว 902 แห่ง ครอบคลุม 50 เขตในกรุงเทพฯ จะเร่งทยอยติดเครื่องอีดีซีให้บริการประชาชนทั่วถึง รองรับการเข้ามาใช้สิทธิของผู้มีรายได้น้อยในกรุงเทพ 552,278 ราย ส่วนร้านค้าที่ติดเครื่องอีดีซีรวมทั่วประเทศขณะนี้ถึง 6,000 แห่งแล้ว จะเร่งติดตั้งให้ครบ 20,000 แห่ง ทั่วประเทศภายในสิ้นพฤศจิกายนนี้ จากการหารือกับสมาคมธนาคารไทย ธนาคารกรุงไทยและออมสิน ล่าสุดวันนี้ จากนี้จะสามารถเร่งความเร็วการติดเครื่องอีดีซีได้

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า บรรยากาศวันแรกของการใช้บัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อย ในกรุงเทพฯ คึกคัก ส่วนใหญ่ใช้เงินในบัตรซื้อสินค้าข้าวสาร น้ำมัน เครื่องปรุงรส และสินค้าอุปโภคบริโภคของใช้จำเป็นต่างๆ ขณะเดียวกันอธิบดีกรมการภายในได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านค้าในวันแรกยังไม่ได้รับรายงานปัญหาใด

“กรณีมีกระแสข่าวเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการ และจะมีการโยกย้ายวงเงินในส่วนของค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาใส่ในบัตรใช้ซื้อสินค้านั้น ขอยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นเพียงแนวคิดของใครคนใดคนหนึ่ง และรองนายกฯสมคิดยังไม่ได้สั่งการอะไรเพิ่ม ในส่วนสวัสดิการแก่ผู้มีรายได้น้อยในขณะนี้ยังเป็นเช่นเดิม” นายสนธิรัตน์กล่าวและว่าขอยืนยันว่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ จะเป็นการคัดเลือกและพิจารณาจากความพร้อมของร้านที่มีการสมัครเข้ามากว่า 30,000 แห่ง ประกอบกับดูที่ตั้งของร้าน และผู้ใช้บริการว่าสอดคล้องกับความต้องการ ครอบคลุมหรือไม่ ทั้งนี้มีร้านค้ารายย่อยร่วมโครงการจำนวนมาก ไม่ได้มีแต่ร้านใหญ่ๆ

“ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่า การมีสวัสดิการให้แก่ผู้มีรายได้น้อยรอบนี้เป็นเพียงขั้นที่ 1 ในการช่วยประชาชน ต่อไปรัฐบาลจะดำเนินการขับเคลื่อนขั้นที่ 2 ให้กลุ่มนี้พ้นจากความยากจน” นายสนธิรัตน์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image