งดงาม-สมพระเกียรติ ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ

นับเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการซักซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในพื้นที่จริง โดยครั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯมาทรงร่วมซ้อมในริ้วขบวนที่ 1-3 ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่อัญเชิญพระโกศทองใหญ่ไปยังพระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง


นอกจากนี้ ยังมีพระวงศานุวงศ์ ราชสกุล นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี องค์กร มูลนิธิ โรงเรียน รวมถึงทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 3,000 คน อาทิ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ และ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ประคองพระโกศทองใหญ่ ร.อ.จิทัศ ศรสงคราม พระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นผู้อัญเชิญเครื่องทองน้อย

ต่อมาในช่วงบ่าย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงร่วมซ้อมในริ้วขบวนที่ 6 ซึ่งพระองค์ทรงเป็นผู้บังคับกองทหารม้าเกียรติยศ ประกอบริ้วขบวนที่ 6 ในพิธีอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร

Advertisement


การซักซ้อมเป็นไปอย่างงดงาม และสมพระเกียรติ โดยมีประชาชนเดินทางมาร่วมชมริ้วขบวนจำนวนมาก ต่างมาด้วยหัวใจที่อยากมาชมพระราชพิธีอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

นายประพันธ์ รอ ณ รังษี อายุ 63 ปี มาพร้อมภรรยา นางหริ่ม รอ ณ รังษี อายุ 63 ปี ชาว อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ กล่าวร่วมกันด้วยสีหน้าปลาบปลื้มว่า เราเดินทางจากชัยภูมิตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันที่ 14 ตุลาคม ด้วยรถประจำทางถึงสนามหลวงในเวลา 03.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม เพราะตั้งใจว่าอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต เนื่องด้วยในการซ้อมครั้งที่แล้วได้ดูจากข่าวเลยสนใจ และจะไม่มีโอกาสมาชมอีกแล้ว เพราะสมัครจิตอาสาเฉพาะกิจฯ ไว้ ต้องปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 18-30 ตุลาคม อาจไม่ได้มางานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

Advertisement

นางเขียว ศรีไกลสุข ชาว จ.จันทบุรี อายุ 85 ปี กล่าวพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอยู่ตลอดเวลาว่า ขอให้ลูกสาวพามารอชมริ้วขบวน ถึงจะลำบากอย่างไรก็ตั้งใจจะมา ไม่ย่อท้อ เพราะในหลวง ร.9 ทรงทำงานหนักเพื่อประชาชนคนไทยมาตลอดชีวิต ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ใกล้ชิดประชาชน

นางปราณี ยวดยง ชาวสมุทรปราการ อายุ 73 ปี กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมกับลูกสาว มีโอกาสได้เห็นริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญยังดีใจที่ได้ชื่นชมพระบารมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แม้จะรู้สึกปลื้มใจ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นงานที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

“ตั้งใจว่าการซ้อมริ้วขบวนวันที่ 21 ตุลาคม ตั้งใจจะมาอีก ส่วนพระราชพิธีถวายพระเพลิงวันที่ 26 ตุลาคม จะเดินทางมารอตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม เพราะคงเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้มาส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9” นางปราณีกล่าว


การซ้อมใหญ่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศจะมีขึ้นอีกครั้งวันที่ 21-22 ตุลาคม ก่อนจะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงฯ 25-26 ตุลาคม

ยิ่งใกล้วัน หัวใจคนไทยยิ่งอาลัย 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image