พสกนิกรหลั่งไหลนำดอกไม้สักการะในหลวง ร.9

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ถนนหน้าพระลาน หน้าพระบรมมหาราชวัง สนามหลวง ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังจัดทำซุ้มประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรี และประตูมณีนพรัตน์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ในวันนี้ ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศยังคงทยอยเดินทางนำดอกไม้ พวงมาลัย มากราบสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ตลอดทั้งวัน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด สลับกับเมฆครึ้มเป็นบางช่วงเวลา แต่ประชาชนก็ยังไม่ย่อท้อ หลายคนยังได้จูงบุตรหลานมาร่วมกราบด้วย

Advertisement

นางสาวพันธุ์วิจิตร พรหมขัติแก้ว อายุ 50 ปี คุณครูสอนภาษาไทยและอังกฤษ ซึ่งเดินทางมาจากย่านสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องมากราบในหลวงร.9 ให้ได้ 3 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้ได้กราบพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว 2 ครั้ง ในวันนี้จึงถือเป็นครั้งที่ 3 อย่างที่ตั้งใจ และถือว่าใกล้ช่วงถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้วด้วย ยิ่งเรียกว่าใกล้โอกาสสุดท้ายเข้าไปทุกที

ที่ผ่านมาได้ติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ตลอดมา ยังจดจำภาพที่พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯ มาทรงงานด้วยกันตลอด รวมถึงภาพทรงงานต่างๆ โดยเฉพาะพระบรมฉายาลักษณ์ที่พระองค์ทรงโน้มพระวรกายหายายท่านหนึ่ง เป็นภาพที่งดงามซึ่งได้เก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ ไว้มองยามที่คิดถึงพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงถือเป็นกำลังใจให้สู้ชีวิต ไม่ย่อท้อ เพราะพระองค์ทรงงานหนักยิ่งกว่าเรา

นางสาวพันธุ์วิจิตร พรหมขัติแก้ว

“เราเป็นครูสอนภาษาไทยให้กับคนต่างชาติ ช่วงเวลาที่พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อปีที่แล้ว ต่างชาติก็ต่างเข้ามาสอบถามและร้องไห้ไปกับเรา ซึ่งดีใจที่ชาวต่างชาติสนใจและรักในพระองค์ทุกคน ทำให้พวกเขาอยากจะอยู่เมืองไทย ทุกวันนี้แม้ผ่านมาแล้วนับปี ก็ยังรู้สึกเศร้า ใจหาย ยิ่งใกล้ถึงวันยิ่งรู้สึกเศร้า แต่ก็ได้สวดมนต์ ตักบาตร นั่งสมาธิ ถวายเป็นพระราชกุศลพระองค์เสมอ” นางสาวพันธุ์จิตร กล่าว

Advertisement

นาวาโทหญิงสุปราณี วิชัยคำมาตย์ อตีดข้าราชการประจำกรมแผนที่ อายุ 69 ปี เดินทางมาจากบ้านพักย่านวงศ์สว่าง กล่าวว่า เคยได้เข้าไปกราบสักการะพระบรมศพด้านในพระที่นั่งดุสิตฯ 1 ครั้ง ตอนนั้นคนเยอะและรอนานมาก ตนมีโรคประจำตัวแทบจะถอดใจ จึงตั้งจิตอธิษฐานขอพรพระองค์ว่าขอให้มีโอกาสได้เข้าไปกราบสักครั้ง สักพักก็มีลมพัดมาให้รู้สึกเย็นสบายขึ้น ยิ่งเมื่อได้ขึ้นไปกราบพระองค์เบื้องหน้าพระบรมโกศรู้สึกว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

นาวาโทหญิงสุปราณี วิชัยคำมาตย์

“เมื่อสมัยที่ยังสาว อายุประมาณ 20 กว่าๆ พระองค์เคยเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์มาที่กรมแผนที่ พระองค์ทรงพระดำเนินขึ้นบันไดมาแล้วตรัสถามว่าเจ้ากรมแผนที่อยู่หรือไม่ ด้วยความที่ตกตะลึงเลยไม่ได้ตอบกลับไป ซึ่งก็ยังนึกโมโหตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ และเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยังจำได้มาตลอด” ข้าราชการวัยเกษียณกล่าว

เวลา 11.00 น. นางสาวรติยาภรณ์ ชูแก้ว หรือลูกปัด อายุ 19 ปี ตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2017 ที่ประเทศญี่ปุ่นได้นำพวงมาลัยมาถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาถวายสักการะ ซึ่งตนได้อธิษฐานขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและนำชื่อเสียงกลับมาให้ประเทศไทย เพราะในวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ต้องเดินทางไปประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2017 ที่ประเทศญี่ปุ่น ตั้งใจว่าจะทำให้เต็มที่กับการประกวด เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย

นางสาวรติยาภรณ์ ชูแก้ว (ซ้าย)

“รักพระองค์มาก และภูมิใจที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร รู้สึกเสียใจมากที่สูญเสียพระองค์ไป โดยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีการสวรรคต ก็มีโอกาสได้เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยไปวางดอกไม้แสดงความอาลัยที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา ประทับใจภาพที่พระองค์ประทับอยู่กับคุณทองแดง เพราะเป็นสุนัขจรจัดที่พระองค์ทรงรับมาเลี้ยง ส่วนตัวได้น้อมนำคำสอนเรื่องความเมตตา ความขยัน และความอดทนมาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย เวลาที่ท้อแท้ ก็จะนึกถึงพระองค์ซึ่งทรงเป็นแบบอย่างในความอดทนและทำให้ผ่านไปได้” นางสาวรติยาภรณ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image