นายกท่าเสา เรียกค่าเสียหายคดีหมิ่นกับ “ผู้ว่าฯสุโขทัยพิพัฒน์” 10 ล้าน พร้อมแจ้งความดำเนินเอาผิดเจ้าของเฟซบุ๊ก และคนถ่ายสดอีก 2 ล้าน
เมื่อเวลา 09.28 น.วันที่ 18 ตุลาคม นายสิทธิชัย เจริญธนะจินดา นายกเทศมนตรีตำบลท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เข้าพบ พ.ต.อ.สาทิตย์ ศรีหมื่นไวย ผกก.สภ.น้ำปาด และ พ.ต.ท.สุทัศน์ เลิกรัตน์พัฒนา รอง ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมในคดีแจ้งความเอาผิดกับนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ กล่าวหามีการโกงกินทุจริตภาษีของประชาชน และใช้อาวุธปืนของนายอำเภอผิดประเภทมายิงราษฎร เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลได้รับความเสียหาย โดยพูดให้สัมภาษณ์สดผ่านเฟซบุ๊กอุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง มีนายวิฑูรย์ ศรีชัยศักดิ์ ผู้สื่อข่าวช่อง 5 ประจำ จ.อุตรดิตถ์ ผู้ยิงภาพถ่ายทอดสดผ่านเพจเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2560 เวลา 14.15 น. และได้มีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับนายพิพัฒน์ไว้แล้วที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเหตุกล่าวหมิ่นประมาทเกิดในพื้นที่ ต.น้ำไคร้ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ได้ส่งมอบคดีให้กับ สภ.น้ำปาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงมาให้การเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนกับ สภ.น้ำปาดในครั้งนี้
โดยนายสิทธิชัยให้การรายละเอียดเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.สุทัศน์ เกี่ยวกับพฤติกรรมในคดีหมิ่นประมาท พร้อมแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับนายวิฑูรย์ ศรีชัยศักดิ์ ผู้สื่อข่าวช่อง 5 ประจำ จ.อุตรดิตถ์ ผู้ยิงภาพถ่ายทอดสดผ่านเพจเฟซบุ๊ก อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง และนายอานนท์ น้อยคำ เจ้าของเพจอุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง ที่ร่วมกันเผยแพร่คำสัมภาษณ์สดของนายพิพัฒน์ ให้สัมภาษณ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ก อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง ในฐานะเป็นจำเลยร่วมกระทำผิดด้วยกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 326, 328 และความผิดหมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ตที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายในคดีหมิ่นประมาทจากนายพิพัฒน์เป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท นายวิฑูรย์และนายอานนท์คนละ 2 ล้านบาท ฐานละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 423 ในคดีนี้ด้วย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความพร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเรียกนายวิฑูรย์พร้อมด้วยนายอานนท์มารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อไป
นายสิทธิชัยกล่าวว่า คดีหมิ่นประมาทที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดตกเป็นผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินคดีเฉกเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป จะต้องไม่ได้อภิสิทธิ์ใดทั้งสิ้น ทั้งการสอบสวนหรือสอบปากคำ การพิมพ์ลายนิ้วมือ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้จะต้องดำเนินการที่ สภ.น้ำปาดเท่านั้น อย่าได้มีพฤติกรรม 2 มาตรฐาน และถืออภิสิทธิ์ในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดให้พนักงานสอบสวนไปสอบที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือที่นั้น คดีนี้ประชาชนทั่วไปจับตาจ้องมองอยู่ดูว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้อภิสิทธิ์พิเศษใดกับผู้ว่าราชการจังหวัดคนนี้บ้าง ในฐานะที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประมาท คนทั้งประเทศกำลังจับตามองดูอยู่ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน
