ประชาธิปไตยแบบยั่งยืน : โดย เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

อีกไม่นาน สัญญาที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะลุล่วงคืนทั้งสัญญาและความสุขให้ปวงชนชาวไทย หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกาศพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

อีกสองฉบับคือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้เกิดรัฐสภาต่อไปอีกไม่นาน

เมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 4 ฉบับเสร็จสิ้น รัฐบาลจะได้ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการเลือกตั้งตามที่นายกรัฐมนตรีกำหนด คือภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 ไม่ขาดไม่เกินไปกว่านั้น และพรรคการเมืองจะได้ดำเนินการทางการเมืองเพื่อเตรียมการสมัครรับเลือกตั้งเช่นกัน

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 2 ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

Advertisement

ประชาธิปไตยของประเทศไทยย่อมเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กำหนด จะเป็นประชาธิปไตยในรูปแบบอื่นมิได้ ทั้งประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ ดังนั้น ทุกประการเพื่อความเป็นประชาธิปไตย ไม่เพียงแต่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น ยังต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญในแต่ละเรื่อง ตั้งแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง พรรคการเมือง การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา

ส่วนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญในเรื่องอื่นที่จะต้องเสร็จตามต่อมาก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติที่กำหนดไว้แล้ว

การวิพากษ์วิจารณ์ใดย่อมกระทำได้ และควรเป็นไปเพื่อทำความเข้าใจให้กับปวงชนชาวไทย เป็นเรื่องของความคิดเห็น ไม่ควรแสดงเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ หรือทำให้ประชาชนไขว้เขว

Advertisement

นับแต่วันนี้ แม้รัฐบาลยังไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ให้นักการเมือง และพรรคการเมืองดำเนินการทางการเมือง แต่การที่พรรคการเมืองและนักการเมืองจะทำความเข้าใจให้กับสมาชิกพรรคการเมืองของตนทราบถึงระเบียบ กฎ กติกาอันเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ซึ่งปรากฏในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมแล้วคือการรับสมัครสมาชิกพรรคการเมืองและสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่เนิ่นๆ สมาชิกพรรคจะได้เตรียมตัว “หาเสียง” ตั้งแต่บัดนี้

อย่างน้อย เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเป็น “น้ำดี” แม้จะ “มือใหม่” ทางการเมือง จะได้แสดงวิสัยทัศน์ให้สมาชิกพรรค และประชาชนผู้ที่จะลงคะแนนเสียงให้หลังจากสมัครรับเลือกตั้งแล้วว่า
ผู้สมัครคนนั้นคนนี้ของพรรคนั้นพรรคนี้เป็นอย่างไร

หรือที่สุดคือ นโยบายหลักของพรรคนั้นพรรคนี้เป็นอย่างไร จะเลือกสมาชิกพรรคนั้นยกทั้งพรรค ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือจากบัญชีรายชื่อ

แม้กติกาครั้งนี้ ประชาชนเจ้าของคะแนนเสียงอาจจะไม่ชี้ขาดว่านายกรัฐมนตรีมา
จากคนนอก หรือจากสมาชิกพรรคการเมือง แต่อย่างน้อย หากได้นายกรัฐมนตรีที่มีพรรคการเมืองซึ่งประชาชนหนุนด้วยเสียงข้างมาก ก็น่าจะเป็นผลดีอันเกิดจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ปีหน้า

เรื่องของ “ประชาธิปไตย” เป็นเรื่องที่ “คน” ในประเทศนั้นต้องศึกษา เรียนรู้ และแสดงความคิดให้เห็นว่าคนในสังคมต้องการประชาธิปไตยแบบไหน

ประเทศไทยผ่านประชาธิปไตยมาหลายรูปแบบ รวมถึงรูปแบบเผด็จการ

แต่ยังไม่เคยมีประชาธิปไตยแบบยั่งยืน ซึ่งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ประชาธิปไตยต้องมาจากเสียงของประชาชนเท่านั้น เช่นนานาอารยประเทศเขาปฏิบัติกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image