นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. เตรียมนำเงินรายได้ที่เกิดจากประมูล 4จี บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ งวดที่ 2 ส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้แผ่นดินภายในเดือนธันวาคมนี้ จำนวน 21,608.12 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) แบ่งเป็นเงินของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ครบกำหนดการชำระเงินค่าประมูลคลื่น งวดที่2 ในวันที่ 11 ธันวาคม 2560 จำนวน 10,963.76 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และของบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น บริษัทในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครบกำหนดการชำระเงินค่าประมูลคลื่น งวดที่ 2 ในวันที่ 19 ธันวาคม 2560 จำนวน 10,644.36 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ทั้งนี้ได้มีหนังสือแจ้งกำหนดชำระเงินประมูลคลื่น งวดที่2 ให้ทั้งสองบริษัทรับทราบเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนำส่งหนังสือค้ำประกันการชำระเงินประมูลคลื่น งวดที่3 ไปพร้อมกัน
นายฐากร กล่าวว่า คลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ สำนักงาน กสทช.ได้จัดให้มีการประมูลเมื่อปี 2558 โดยบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลคลื่น ที่ราคาประมูล 39,792 ล้านบาท และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลคลื่น ที่ราคาประมูล 40,986 ล้านบาท รวมรายได้เข้ารัฐ 80,778 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงิน 86,432.47 ล้านบาท) โดยการชำระเงินค่าประมูลจะแบ่งออกเป็น 3 งวด งวดแรกชำระ 50% ของราคาที่ชนะการประมูล งวดที่ 2 ชำระ 25% และงวดที่ 3 ชำระอีก 25% ซึ่งในปี 2558 ทั้งสองบริษัทได้ชำระค่าประมูลคลื่นความถี่ในงวดที่ 1 จำนวน 50% ของราคาที่ชนะการประมูลแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 43,216.23 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้นำส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินไปแล้ว
