น้ำ”นครสวรรค์”ยังเพิ่มขึ้น เหตุกำแพงเพชรฝนตกหนัก กรมชลฯประสานท้องถิ่นแจ้งชุมชนริมน้ำ 3 จว. นครสวรรค์-ชัยนาท-อุทัยธานี รับมือ

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,854 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.38 เมตร โดยระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่จ.กำแพงเพชรทำให้แม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จ.นครสวรรค์ ส่งผลให้ปริมาณน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะไหลไปรวมกับแม่น้ำสะแกกรังและไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาตามลำดับ ขณะที่การระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยายังควบคุมไม่ให้เกิน 2,600 ลบ.ม.ต่อวินาที จึงคาดว่าจะทำให้ระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 20 เซนติเมตร (ซม.) ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่เขตอ.เมือง อ.วัดสิงห์ และอ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท รวมไปถึงพื้นที่ในเขตอ.เมือง จ.อุทัยธานี และอ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จึงได้ส่งหนังสือแจ้งทางจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งฝ่ายปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ดังกล่าว ให้แจ้งเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง

นายสมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ปัจจุบัน มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกันทั้งสิ้น 58,038 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 82% ของความจุอ่างฯทั้งหมด เป็นน้ำใช้การได้ 34,512 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 73% สามารถรองรับน้ำได้อีก 13,285 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น 19,728 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 79% ของความจุอ่างฯรวม มีปริมาณน้ำใช้การได้ 13,032ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 72% ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกกว่า 5,159 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ กรมฯได้กำชับให้โครงการชลประทานทุกโครงการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ นำถุงยังชีพและน้ำดื่ม เข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่องแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image