นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการ“ธงฟ้าประชารัฐ” ที่ร้านบุ๊กบิ๊กมินิมาร์ท , ร้านค้าประชารัฐ (กองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 5) ต.สำโรงเหนือ และร้านดี.ดี ซุปเปอร์สโตร์ ท่าเรือข้ามฟากปากน้ำ ต.ปากน้ำ ในจ.สมุทรปราการ วันที่ 20 ตุลาคม หลังจากมีการแจกบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยให้กับกรุงเทพฯและปริมณฑล 7 จังหวัด เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่า ประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดินทางมาใช้จ่ายซื้อสินค้ากันอย่างต่อเนื่อง และใช้บัตรซื้อสินค้าตามวงเงินที่ได้รับ 200-300 บาท ส่วนใหญ่ซื้อข้าวสาร น้ำมันพืช เครื่องปรุงรส สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ให้ช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่าไม่จำเป็นต้องใช้เงินในบัตรให้หมดในทันที สามารถใช้ได้วันไหนก็ได้ ตลอดทั้งเดือนตุลาคม และที่สำคัญ วงเงินของเดือนตุลาคม รัฐบาลให้ทบไปใช้ในเดือนพฤศจิกายนได้ด้วย จะไม่มีการตัดทันทีเมื่อสิ้นเดือนตุลาคมตามที่เคยกำหนดไว้ เพราะยังมีปัญหาเรื่องการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) ที่ยังทำได้ไม่ครอบคลุม
ขณะเดียวกัน ได้กำชับให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้ผิดประเภท เช่น ห้ามมิให้ซื้อสุราและบุหรี่ หรือแลกเป็นเงินสด ตามที่เคยเกิดปัญหาก่อนหน้านี้ หากตรวจสอบพบหรือได้รับการร้องเรียนจากประชาชน จะเข้าไปตรวจสอบ และพบกระทำความผิดจริง จะปลดออกจากการเข้าร่วมโครงการและยึดเครื่องอีดีซี รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายด้วย
ทั้งนี้ ในจ.สมุทรปราการ มีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่สมัครเข้าร่วมโครงการ 201 ร้าน มีประชาชนได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 129,891 คน และมีร้านค้าที่ได้รับการติดตั้งเครื่องอีดีซี แล้ว 37 ตำบล ยังไม่ได้รับการติดตั้งอีก 13 ตำบล ซึ่งจะเร่งรัดติดตั้งให้ครบทุกตำบลโดยเร็ว และเพื่อแก้ไขปัญหาการติดตั้งเครื่องรูดบัตรอีดีซีได้เร็วขึ้น ได้ขอความร่วมมือไปยังสมาคมธนาคารไทย ให้ประสานธนาคารพาณิชย์ช่วยติดตั้งเครื่องอีดีซีให้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีเพียงธนาคารกรุงไทยเพียงแห่งเดียว และขอความร่วมมือธนาคารออมสินให้ช่วยติดตั้งด้วย หากมีธนาคารเข้ามาช่วยติดตั้งเพิ่มขึ้น จะทำให้การติดตั้งเร็วขึ้นตามเป้าหมายติดตั้งให้ได้ 18,000 แห่งในเดือนพฤศจิกายน จากเป้าหมาย 20,000 แห่ง
ขอยืนยันว่า การคัดเลือกร้านค้าให้เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐ ดำเนินการด้วยความโปร่งใส และคัดเลือกโดยคำนึงถึงความครอบคลุมจำนวนประชาชนที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยร้านค้าต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งการจำหน่ายสินค้าตามที่กำหนด ห้ามแลกสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด ห้ามบังคับให้มีการรูดซื้อสินค้าตามที่ทางร้านกำหนด และห้ามยึดบัตรเก็บไว้ ซึ่งหากมีการตรวจสอบพบจะดำเนินการเพิกถอนสิทธิ์ทันที ” นายสนธิรัตน์ กล่าว
