รู้จัก ‘ในหลวง ร.9’ ผ่านนิทรรศการ King of Kings

“นี่เป็นงานที่ผมตั้งใจและอยากจัดขึ้นมาก” บุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าของพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA BANGKOK บอกระหว่างที่เดินนำชม นิทรรศการพิเศษ “KING OF KINGS” ซึ่งนำพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลายร้อยภาพมาจัดแสดง ณ ห้องนิทรรศการหมุนเวียนชั้น G และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรี จนถึงวันที่ 29 ตุลาคมนี้

พระบรมฉายาลักษณ์ที่มีตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ ค่อยๆ เจริญพระชันษา ไปจนถึงภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านเรา และเมื่อพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย

ภาพซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประวัติศาสตร์อันสำคัญยิ่ง ภาพที่พาเราย้อนรำลึกพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นต่อพสกนิกรเหล่านั้น เชื่อว่าใครที่ได้ไปเห็นคงรู้สึกเหมือนๆ กับเรา นั่นคือในห้วงหนึ่งก็ยิ้มได้อย่างสุขใจที่ ‘ได้เห็น’ พระองค์อีกครั้ง – แม้จะแค่ผ่านทางพระบรมฉายาลักษณ์
หากในอีกห้วง น้ำตาก็ปริ่ม เมื่อระลึกได้ว่าจะไม่มีโอกาส ‘ได้เห็น’ พระองค์จริงๆ อีกแล้ว

ในบรรดาพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งหมดที่นำมาจัดแสดง บุญชัยบอกว่า มีหลายภาพเป็นภาพที่เขาเก็บสะสมมาเนิ่นนาน

Advertisement

เรียกได้ว่า เห็นที่ใดก็พยายามซื้อเก็บ หรือที่ไหนจัดประมูลก็ไปประมูลสู้

เล่าด้วยว่า ก่อนจะเป็นงานนิทรรศการนี้ พระบรมฉายาลักษณ์ทั้งหมดได้ถูกนำมาจัดเป็นหมวดหมู่ ดังนั้น พออย่างเท้าเข้าห้อง ทุกคนก็จะเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ภาพนี้

Advertisement

ก่อนจะที่เห็นเซต ‘ครอบครัว’

เห็นพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ท่านกับ ‘สมเด็จย่า’ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในพระอิริยาบถต่างๆ

“จะเห็นว่าท่านใกล้ชิดกันมาก” บุญชัยบอก ระหว่างชี้ชวนให้ดูพระบรมฉายาลักษณ์หลายภาพของทั้ง 2 พระองค์ ที่เขาคิดว่าหลายคนน่าจะไม่เคยเห็นมาก่อน

ด้วยบางส่วนก็ทรงฉายมานาน ส่วนที่เขาเองมีอยู่ก็เพราะที่บ้านไม่ก็ตัวเขาซื้อเก็บไว้ตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กๆ

“เมื่อตอนผมเป็นเด็กเขาจะขายคนทั่วไป โดยพระองค์ท่านทรงมีพระบรมราชานุญาตให้”

ซึ่งส่วนใหญ่ที่ซื้อไว้จะเป็นขนาดโปสการ์ด เมื่อจะนำมาใช้ในครั้งนี้จึงนำไปพรินต์ขยาย

ถามเขาไปว่า ในบรรดาพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งหมดซึ่งล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่านั้น ชิ้นไหนที่ถือว่าพิเศษสุดในความรู้สึกเขา

“กับสมเด็จย่าครับ”

เหตุผลก็คือ “ถ้าเราได้ยินพระองค์ท่านทรงเล่าเรื่องความรักที่มีให้กับพระมารดา จะรู้ว่าพระองค์ท่านทรงรักมากและสมเด็จย่าก็ทรงรักท่านมาก แล้วอบรมบ่มเพาะพระองค์ท่านตั้งแต่ยังองค์เล็กๆ”

“เวลาเข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านจะทรงเล่าเรื่องสมเด็จย่าตลอด สมเด็จย่าสอนเราอย่างนี้ สมเด็จย่าสอนเราอย่างนั้น ขนาดเรื่องช็อกโกแลตตรงกระเป๋าท่านยังทรงเล่าเลย ว่าสมเด็จย่าทรงสังเกตว่าวันหนึ่งกลับบ้านมากระเป๋าตุงๆ เลยทูลว่าเป็นช็อกโกแลต สมเด็จย่าทรงถาม เมื่อเช้าไปยังไม่มีเลย เอาสตางค์ที่ไหน ท่านตรัสว่ายืมเพื่อน สมเด็จย่าก็ตรัสตอบว่าไม่ให้ยืมเงินคน อย่าไปก่อหนี้ก่อสิน โดยเฉพาะกับของที่ไม่ได้เป็นประโยชน์”

“นี่ก็เป็นหลักชีวิตที่ท่านได้จากสมเด็จย่า”

หรืออย่างภาพนี้

“พระองค์ท่านทรงเป็นผู้นำพุทธมามกะของคนทั่วประเทศ ซึ่งภาพแบบนี้จะไม่ได้เห็นมา 70 ปีแล้วนะ”

“คือหมายความว่า คนที่มีอายุเกิน 80 เขาไม่ได้เห็นภาพนี้มา 70 ปีแล้ว”

ทั้งนี้เมื่อถามเขาไปว่า หากเอ่ยถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในห้วงคำนึงของเขาจะนึกถึงเรื่องใดเป็นเรื่องแรก

คำตอบที่บุญชัยให้โดยไม่ต้องใช้เวลาคิด คือ “นึกถึงความเมตตา”

“พระองค์ท่านมีออร่าของความเมตตาออกมาตลอด”

ทั้งยังบอกอีกว่า จากการได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระองค์ท่านนับเป็นสิบครั้ง กับกระแสพระราชดำรัสที่พระองค์ตรัส ยังทำให้ชีวิตเขามีความเปลี่ยนแปลง

“เปลี่ยนในเรื่องที่ท่านทรงส่งเสริมให้เรามาทำอะไรให้คนตัวเล็กๆ”

“จากตอนแรกที่พระองค์ท่านตรัสว่า ดูให้พนักงานของเรามีงานทำ ถ้าเขามีงานทำ เขาก็จะช่วยให้คน 10 เท่ามีงานทำ และคน 10 เท่านั้นก็จะมีอีก 10 เท่ามีงานทำ สุดท้ายก็จะมีคนมีงานทำ 50 ล้านคน”

“หมายถึงว่าให้ไปต่อยอด ด้วยการที่ใช้ศักยภาพของเราช่วยคนที่ด้อยโอกาสกว่า”

กับการนำพระบรมฉายาลักษณ์มาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ บุญชัยบอกว่า สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจว่าผู้ที่เข้าชมนิทรรศการจะได้รับกลับไป คือ “จะได้เรียนรู้ว่าพระองค์ท่านทรงใช้ชีวิตมาอย่างไร”

เพื่อ “เราจะได้นำไปเลียนแบบ”

เลียนจาก ‘ต้นแบบ’ ซึ่งใครๆ ก็ถวายการยกย่องในแง่ของการทรงใช้ชีวิตที่ดีงาม ชีวิตที่ได้ทรงสร้างคุณประโยชน์มหาศาลให้ผู้อื่น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image