ผู้ประกันตนเตรียมตัว! ปี 61 สปส.เล็งเรียกเงินสมทบเพิ่มสูงสุด 1,000 บาท -แจงปัญหาเงินบำนาญ

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมคม (สปส.) กล่าวถึงการเตรียมขยายเพดานเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ว่า เรื่องนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2559 มีการรับฟังความคิดเห็นจากผุ้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งร้อยละ 81 เห็นด้วยกับการขยายเพดานการเก็บเงินสมทบ จาก 15,000 เป็น 20,000 บาท โดยเก็บ ร้อยละ 5 ของค่าจ้าง แต่สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท เช่น คนที่ได้เงิน 16,000 คิด 800 บาท เงินเดือน 17,000 บาท ก็เก็บ 850 บาท คือสูงสุดเก็บไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งคณะกรรมการ สปส. จึงได้เดินหน้าทำเป็นร่างกฎกระทรวง เสนอไปยังกระทรวงแรงงานเพื่อพิจารณาเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี และสำนักงานกฤษฎีกาต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถใช้ได้จริงภายในประมาณ 3 เดือน

“ขณะนี้ ยังไม่ทราบตัวเลขของผู้ประกันตนที่ได้รับเงินเดือนตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไปว่ามีจำนวนเท่าไหร่ อยู่ระหว่างการสำรวจซึ่งน่าจะทราบเร็วๆ นี้ ส่วนที่ทราบตอนนี้มีเพียงจำนวนผู้ประกันตนที่มีเงินเดือนมากกว่า 15,000 บาท อยู่ที่ร้อยละ 32” นพ.สุรเดช กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีหลายฝ่ายที่เห็นว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากขยายการเก็บเงินสมทบเพิ่ม แต่เรื่องเงินชราภาพกลับมีเงื่อนไขมากมาย ที่สำคัญคือเมื่อผู้ประกันตนที่เสียชีวิตไปแล้วเงินนั้นไม่ตกแก่ทายาท นพ.สุรเดช กล่าวว่า ยืนยันว่าสปส. ไม่ได้เอาเปรียบผู้ประกันตน เรื่องการจ่ายบำนาญชราภาพให้ทายาทผู้ประกันตนนั้นก็มีการหารือกันของคณะกรรมการ ว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนให้จ่ายให้กับทายาทได้ เช่นในกรณีที่เดือดร้อน มีความจำเป็น ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็นในเรื่องเหล่านี้ ส่วนที่เรียกร้องให้จ่ายให้โดยไม่มีเงื่อนไขสุดท้ายหากสังคมต้องการอย่างนั้นก็จ่ายให้ได้ แต่สิ่งอยากจะบอกคือถ้าเราคิดแต่เรื่องกำไรส่วนตัว การดูแลสังคมร่วมกันก็จะไม่เกิดขึ้น เรื่องความคิดต่อส่วนรวมตั้งช่วยกันสร้าง

นายมนัส โกศล ประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) กล่าวว่า เครือข่ายเห็นด้วยเรื่องการเพิ่มเพดานเงินสมทบ เป็นเรื่องดี เท่ากับลูกจ้างจะมีเงินออมชราภาพเพิ่มจาก 900 บาท เป็น 1,200 บาทต่อเดือน แต่เหมาะที่จะทำในช่วงที่เศรษฐกิจเป็นแบบนี้หรือไม่ ลูกจ้างจะไหวหรือไม่ นายจ้างจะไหวหรือไม่ และปัญหาสำคัญคือกองทุนบำนาญชราภาพยังมีช่องโหว่ เพราะหากผู้ประกันตนเกษียณอายุ 55 ปี ปกติจะได้รับเงินบำนาญฯ รายเดือน ถ้าเสียชีวิตภายใน 60 เดือน หรือประมาณ 5 ปีจะได้รับเงินเป็น 10 เท่า คูณด้วยเงินชราภาพ เช่น หากได้รับเดือนละ 3,000 บาทก็จะได้เพิ่มเป็นเงินก้อน 30,000 บาท ถ้ามีเงินออมประมาณ200,000 บาท เงินที่เหลือ 170,000 ทายาทจะไม่ได้ จะตกอยู่กับประกันสังคมทั้งหมด เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องมีการปฏิรูปไปพร้อมๆ กัน โดยต้องปฏิรูปให้เงินออมนั้นตกแก่ทายาทโดยไม่มีเงื่อนไข ถ้าให้แบบมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นผู้ที่มีความจำเป็นเท่านั้นก็จะเป็นอีหรอบเดียวกับบัตรคนจน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image