พยัคฆ์ไพร-ตร.ท่องเที่ยว จับ 2 ทัวร์ซิปไลน์ รุกป่าแม่ริม-รุกที่โครงการหลวง แถมยังผิด พรบ.ควบคุมอาคาร

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ศปก.พป.ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีตรวจพบการบุกรุกที่ดินป่าไม้ประกอบธุรกิจโหนสะลิงผจญภัย (Zipline) ท้องที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยสืบเนื่องจากที่นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกรมป่าไม้ดำเนินการตรวจสอบดำเนินคดีกับกิจการซิปไลน์ที่ผิดกฎหมายในเขตป่าไม้ทั่วประเทศ โดย ศปก.พป.ได้รับการประสานจาก พล.อ.อ.ถาวร มณีพฤกษ์ คณะทำงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ประสานการปฏิบัติงานเชิงบูรณาการร่วมกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบม่อนแจ่มซิปไลน์ และฟลายอิ้งสควอเรียส ให้บริการกิจกรรมผจญภัยโรยตัวและโหนสะลิง ซึ่งบุกรุกที่ดินป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ท้องที่หมู่ 4 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

นายอรรถพลกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทหาร รส.ที่ 3 กกล.รส.จว.ชม. ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ม่อนแจ่มซิปไลน์ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม พื้นที่บางส่วนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ทั้งนี้อยู่ในเขตลุ่มน้ำชั้น 1 ด้วย และพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตโครงการหลวงหนองหอย คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 กรณีพบการบุกรุกพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กรณีตรวจพบสิ่งก่อสร้างที่ไม่ปลอดภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสิ่งก่อสร้างที่ตรวจพบกีดขวางทางน้ำ ส่วนฟลายอิ้งสควอเรียส จากการตรวจสอบ พบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ เตรียมดำเนินการรื้อถอนตามระเบียบ

Advertisement

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้เป็นปฏิบัติการร่วมระหว่างหน่วยงาน ต่อเนื่องจากการลงพื้นที่ของ ศปก.พป. การบุกรุกที่ดินป่าไม้ของกลุ่มนายทุน และจากการร้องเรียนซึ่งพบว่ามีผู้ประกอบธุรกิจโหนสะลิงผจญภัยในท้องที่ จ.เชียงใหม่หลายรายที่บุกรุกเขตที่ดินป่าไม้ พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร รวมถึงการปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ และสิ่งก่อสร้างของกิจการดังกล่าวไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างตามระเบียบและกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายและทำลายทรัพยากรป่าไม้ของชาติให้ถึงที่สุด และที่ผ่านมากิจการการท่องเที่ยวประเภทนี้เคยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประสบอุบัติเหตุจนถึงขั้นเสียชีวิตและมีเรื่องราวการร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก เพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของประเทศ

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า ชุดพยัคฆ์ไพรและหน่วยงานในพื้นที่ได้เร่งรัดการตรวจสอบดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดินป่าไม้ เพื่อประกอบธุรกิจท่องเที่ยวโหนสะลิงผจญภัยทั่วประเทศ ที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีไปแล้วในหลายพื้นที่ และบางพื้นที่ได้ดำเนินการรื้อถอนไปแล้ว ใน จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบพบจำนวน 12 แห่ง ได้ดำเนินคดีไปแล้ว 7 ราย และดำเนินการรื้อถอนไปแล้ว 3 แห่ง สำหรับในรายของม่อนแจ่มซิปไลน์เป็นอีกจุดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาขยายผลตรวจสอบเอกสารการครอบครองที่ดินที่ผู้ประกอบการนำมาแสดงจนได้ข้อสรุปแล้วว่า การยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติของม่อนแจ่มซิปไลน์นั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย คณะเจ้าหน้าที่จะดำเนินการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพรกล่าวอีกว่า ส่วนที่เหลือรายอื่นๆ ที่ทางผู้ประกอบการมีการนำเอาเอกสารสิทธิที่ดินมาแสดงทางชุดปฏิบัติการจะประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานของ กรมที่ดิน ตามคำสั่ง ศปก.พป. เพื่อร่วมดำเนินการต่อไปโดยขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ มายังศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป.) เพื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบจะได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image