ดาบนั้นคืนสนอง?

สนช.ประนีประนอมรอมชอม
ตัดสินปมเห็นต่าง มาตรา 7 วรรคสาม ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ที่เสียงข้างมากของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ของ สนช. แก้ไขร่างฉบับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยการตัดทิ้ง เรื่องการให้อำนาจผู้ว่าการ สตง.ไต่สวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.ที่ทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
อ้างก้าวล่วงอำนาจการตรวจสอบ ป.ป.ช.

แต่เสียงข้างน้อยยืนยันให้คงอยู่ต่อ เพราะเป็นการถ่วงดุล ให้เกิดความน่าเชื่อถือ โปร่งใส
ในที่สุด กรรมาธิการฯเสียงข้างมากยอมปรับเนื้อหาเป็นว่า กรณีที่ผู้ว่าการ สตง.ตรวจสอบการใช้เงินแผ่นดินแล้ว มีหลักฐานเชื่อได้ว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุจริตต่อหน้าที่ ให้แจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ และให้ผู้ว่าการ สตง.มีอำนาจไต่สวนเบื้องต้น ตามหลักเกณฑ์ที่ ป.ป.ช.กำหนด แต่ต้องไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.

อย่างไรก็ตามกรณีที่กรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่า การดำเนินการของผู้ว่าการ สตง. กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สามารถแจ้งให้ผู้ว่าการ สตง.ยุติการไต่สวนเบื้องต้น
เพื่อส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป

ที่ประชุมเห็นชอบกับเรื่องนี้ และพิจารณาเรียงมาตรากระทั่งครบ 114 มาตรา และ สนช.ลงมติเห็นชอบทั้งร่างในวาระ 3 ด้วยคะแนน 170:0 งดออกเสียง 4

Advertisement

เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.อยู่ภายใต้สังกัด มีผู้บังคับบัญชาสูงสุดคือเลขาธิการ ป.ป.ช.
เลขาธิการ ป.ป.ช.มีที่มาจากการสรรหา

อย่างในขณะนี้ เก้าอี้เลขาธิการว่างอยู่ พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. ก็เป็นประธานคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช.

ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เลขาธิการ ป.ป.ช. และ ป.ป.ช.ชุดใหญ่
การทำงานมีความเชื่อมโยงถึงกันหมด อย่างแยกออกจากกันมิได้

Advertisement

หากจะกล่าวว่า การทำงานตัดสินคดีของ ป.ป.ช. ก็คือภาพสะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทั้งกระบวนก็คงไม่ผิดนัก

ในระดับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. หรือสูงขึ้นไปกว่านั้นคือเลขาธิการ ป.ป.ช.
แน่นอนว่า จะทำอะไร ก็ต้องเหลือบมอง ทิศทาง ธงชุดใหญ่ มีท่าที และความต้องการต่อแต่ละเรื่อง แต่ละคดีอย่างไร

ไม่มีทางอิสระเป็นอื่นไปได้
เมื่อเป็นมือไม้สำคัญให้กับบอร์ดที่ตัดสิน ชี้มูลความผิดใครต่อใคร ไม่เว้นแม้แต่นายกรัฐมนตรี
การออกแบบ ให้ต้องได้รับการตรวจสอบ ถ่วงดุล เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว

การที่คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่ สนช.ก็ดี แม่น้ำ 2 สายที่หัวหน้า คสช.เป็นคนแต่งตั้งกับมือ เห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่า แม้แต่ คสช.ที่ไม่ใช่ฝ่ายการเมือง ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการตัดสินใจคดีของ ป.ป.ช. อาจรู้ตื้นลึกหนาบาง การไต่สวน การตัดสินคดีเป็นอย่างดีก็ได้

แท้ที่จริงแล้วทั้งกระบวนการภายนอก-ภายในมีความเป็นอิสระจริงหรือไม่

มีธง มีสะกิดชงให้ตรงธงหรือไม่

หากให้สอบสวนกันเป็นการภายในเอง โดยกระบวนการที่ยึดโยง อุปถัมภ์ รับลูก-ส่งลูกกันอยู่ตลอดเวลา
เมื่อระดับเจ้าหน้าที่ กระทำทุจริต ผลสอบย่อมคาดคะเนได้ไม่ยาก

การวางระบบใหม่ให้ถูกตรวจสอบ ถ่วงดุล จึงน่าจะเป็นคุณ ทำให้ระดับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ระมัดระวังไม่ไปรับใบสั่งใครง่ายๆ ส่งผลให้องค์กรมีความโปร่งใส น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

เที่ยวชง ตั้งแท่นตรวจสอบตัดสินใครต่อใคร มีมาตรฐาน ไม่มีมาตรฐานก็อย่างที่เห็นกัน
เที่ยวพูดข่ม ไม่ผิด ไม่เห็นต้องกลัวอะไร

องค์กรอิสระอำนาจล้นเหลืออย่าง ป.ป.ช. ก็ย่อมต้องถูกตรวจสอบได้เหมือนกันว่าใช้อำนาจมิชอบหรือไม่ ไม่เห็นแปลก

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image