ผอ.ส่วนควบคุมการก่อสร้างฯ นครตรังแจงกรณีนายช่างโยธาฯ ถูกแจ้งความละเว้นปฏิบัติหน้าที่

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม กรณีนายนราวิชญ์ วังสโรจน์ ชาวบ้าน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีนายประยุทธ จงไกรจักร นายช่างโยธาชำนาญงาน นายช่างควบคุมอาคาร เทศบาลนครตรัง ในความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สืบเนื่องจากสำนักการช่างเทศบาลนครตรังมีคำสั่งให้ นายนราวิชญ์ วังสโรจน์, นางพัชนี ธรรมพานิชย์ และนายกนกพล จันทนกาญจน์ รื้อถอนอาคารในส่วนที่รุกล้ำถนนสาธารณะ ริมถนนวิเศษกุล อ.เมือง จ.ตรัง ตาม มาตรา 42 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ต่อมานายนราวิชญ์ และ นางพัชนี ได้ทำการรื้อถอนแต่อาคารของนายกนกพลยังไม่ได้มีการรื้อถอน ทำให้นายนราวิชญ์ แจ้งความดำเนินคดีดังกล่าวนั้น

ที่สำนักการช่างเทศบาลนครตรัง นายสนั่น รักดำ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมการก่อสร้างอาคารและผังเมือง เทศบาลนครตรัง ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือบันทึกข้อความถึงผู้อำนวยการสำนักการช่าง/ปลัดเทศบาล และได้ส่งเรื่องการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารกรณีก่อสร้างดัดแปลงอาคารรุกล้ำที่สาธารณะ ราย นางพัชนี ธรรมพานิชย์ นายนราวิชญ์ วังสโรจน์, และ นายกนกพล จันทนกาญจน์ โดยได้มีการออกคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามแบบ ค.7 ให้ฝ่ายนิติกรตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย ตามบันทึกสำนักการช่างลงวันที่ 12 กันยายน 2559

นายสนั่น ชี้แจงอีกว่า ต่อมาฝ่ายนิติกรได้มีบันทึกลงวันที่ 25 มกราคม 2560 แจ้งว่าได้ตรวจสอบเอกสารเพื่อจะดำเนินการตามกฎหมายอาญา ปรากฏว่าคำสั่งให้รื้อถอนอาคารดังกล่าวมิได้ลงนามโดยเจ้าพนักงานท้องถิ่นผู้มีอำนาจจึงเป็นคำสั่งที่มิชอบ อีกทั้งมิได้แจ้งสิทธิการอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ สำนักการช่างฯ ได้ส่งหนังสือไปยังฝ่ายนิติกร ตั้งแต่วันที่ 12 กันยาน 2559 ปรากฏว่า ฝ่ายนิติกรให้ความเห็นว่า นายสาโรจน์ คงนคร รองนายกเทศมนตรี ปฏิบัติราชการแทนนายกเทศมนตรี นครตรัง ไม่มีอำนาจลงนามออกคำสั่งในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น จึงเก็บเอกสารไว้ ไม่ได้ส่งกลับมาให้สำนักงานช่างฯ ต่อมาผู้ร้อง (นายนราวิชญ์)ทำหนังสือมายังสำนักการช่างฯเพื่อขอความเป็นธรรม จึงเรียนข้อเท็จจริงไปยังตามสายบังคับบัญชา

“ข้อเท็จจริง สำนักการช่างได้ตรวจสอบแล้วขอชี้แจงว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการถูกต้องครบถ้วน ส่วนการตรวจสอบพิจารณาว่าลงนามโดยเจ้าพนักงานท้องถิ่น เป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติกรเมื่อพบว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ สมควรแจ้งให้สำนักการช่างฯทราบเพื่อแก้ไขโดยเร็ว และเห็นควรพิจารณาออกคำสั่งให้รื้อถอนอาคาร(ตามแบบ ค.7) รายนายนราวิชญ์ วังสโรจน์, นางพัชนี ธรรมพานิชย์ และ นายกนกพล จันทนกาญจน์ อีกครั้งตามความเห็นฝ่ายนิติกรข้างต้น สรุปว่า สำนักการช่างฯได้ดำเนินการนำคำสั่งให้รื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 42( แบบ ค.7) บริเวณอาคารก่อสร้าง ถึง 2 ครั้ง จนถึงวันนี้ไม่ทราบว่าฝ่ายนิติกรได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับราย นายกนกพล จันทนกาญจน์ ที่ฝ่าฝืนแล้วหรือยัง สำนักการช่างฯยืนยันว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนครบถ้วนปรากฏตามเอกสารทุกประการจนหมดหน้าที่ของสำนักการช่างฯ” นายสนั่น แจง

Advertisement

นายสนั่น กล่าวว่า บริเวณถนนวิเศษกุลทั้ง 2 ฟากฝั่ง มีการก่อสร้างอาคารรุกล้ำที่สาธารณะโดยทางสำนักการช่างฯได้ออกคำสั่งให้มีการรื้อถอนไม่ต่ำกว่า 30 ราย อีกทั้งถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครตรังหลายพันราย ทางสำนักการช่างฯไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามเข้ามาจัดการเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image