โจเซ่ มูรินโญ่ ยอดผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส วัยใกล้ครบ 55 ปี ที่เพิ่งทำสถิติใช้เงินซื้อนักเตะในชีวิตการคุมทีมฟุตบอลชุดใหญ่ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2000 เกิน 1,000 ล้านปอนด์ (44,000 ล้านบาท / อัตรา 1 ปอนด์ 44 บาท) และใช้เงินในฐานะนายใหญ่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งฤดูกาลแรก และเข้าสู่ฤดูกาลที่ 2 เกือบ 300 ล้านปอนด์ (13,200 ล้านบาท)
ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเยือนน้องใหม่ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ วันที่ 21 ตุลาคม ในทำนองหยิ่งยโสตามสไตล์ว่า สาเหตุที่ตัวเองโดนตำหนิอย่างหนัก กับการตัดสินใจสั่งให้แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ชื่อชั้น และมูลค่านักเตะในทีมสูงกว่าคู่แค้นตลอดกาล “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไปอุดประตูเกมลีกนัดเยือนอีกฝ่ายสัปดาห์ก่อน เป็นเพราะความผิดที่เขาประสบความสำเร็จในอดีต ได้ถึง 25 แชมป์ก่อนหน้านี้
เนื่องจากผู้คนมักมองว่าทีมที่ตนคุมอยู่ ต้องมีผลการแข่งขันที่ดี และประสบความสำเร็จกับการคว้าแชมป์ หลายคนมีกำหนดระยะเวลาในการพาทีมคว้าแชมป์มากกว่าตน และหลายคนก็มีมาตรฐานในการทำทีมว่าจะต้องเล่นได้ดีแตกต่างกับตน ซึ่งนั้นไม่เป็นปัญหาสำหรับตนแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าที่ผ่านมามีหลายแมตช์ที่แมนฯ ยูไนเต็ด มีสิทธิเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และบอกได้เลยว่าทีมจะโดนผู้คนวิจารณ์แบบยับเยินมากกว่านี้ด้วยซ้ำ หากตนสั่งให้ทีมเล่นเกมรุกกับเกมเหล่านั้น และเกมจบลงด้วยความพ่ายแพ้
เอาเป็นว่า ทุกคนในทีมกำลังทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ดีที่สุดตามที่ต้องการ
นอกจากนี้ “เดอะ สเปเชียล วัน” ยังคุยโตต่อไปด้วยการยกเรื่องที่ตัวเอง คุมปีศาจแดงบุกเฉือนอดีตทีมเก่าเจ้าตัวอย่างเบนฟิก้า 1-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่มเอ นัด 3 เมื่อกลางสัปดาห์ และก่อนหน้านั้นก็นำทีมบุกถล่มซีเอสเคเอ มอสโก 4-1 และเปิดบ้านชนะบาเซิล 3-0 ในเกมแรกว่า ครั้งสุดท้ายที่ทีมคว้าชัยนอกบ้านรายการนี้ 2 นัดติด ต้องย้อนไปในเกมรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาล 2010-11 ที่บุกชนะบูร์ซาสปอร์ 3-0 และชนะกลาสโกว์ เรนเจอร์ส 1-0
หรือแม้แต่ครั้งล่าสุดที่ทีมออกสตาร์ต 3 เกมแรกรอบแบ่งกลุ่มด้วย 9 คะแนนเต็ม ก็ต้องย้อนไปในฤดูกาล 2012-13 ที่ชนะเปิดบ้านกาลาตาซาราย 1-0, บุกชนะคลูช 2-1 และชนะบรากา 3-2 ในบ้าน
