เปิดวงจรปิด มัด’มาเฟียสยาม’ลักแจ็คเก็ตแบรนด์ดัง BOY LONDON สยามสแควร์ ตัวละ1.3หมื่น

จากกรณีนายทวีสิทธิ์ กาญจนวงศ์ไพศาล อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน BOY LONDON ตั้งอยู่ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าสยามสแควร์ 1 เข้าพบร.ต.ต.นิคม อินอุ่นโชติ รอง สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กรณีถูกคนร้ายขโมยสินค้าในร้าน เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดยนายทวีสิทธิ์ กล่าวว่า ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นแนวไฮเอน สตรีท วันเกิดเหตุไม่ได้อยู่ประจำร้านเนื่องจากไปทำธุระส่วนตัว และปล่อยให้พนักงานประจำร้านขายสินค้าตามลำพัง ได้ข้อมูลจากพนักงานว่าถูกคนร้ายลักเสื้อแจ็คเก็ตยี่ห้อ BOY LONDON มูลค่า 13,500 บาท จึงรีบเดินทางกลับร้านเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนกระทั่งพบผู้ก่อเหตุเป็นลูกค้าเก่าที่เคยมาเลือกซื้อสินค้า 4-5 ครั้ง และหายหน้าไปนานกว่า2ปี จำรูปพรรณสัณฐานได้ชัดเจน เป็นเจ้าของฉายา“มาเฟียสยาม” ทั้งนี้เมื่อประมาณ 2 วันก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหามาหาตนที่ร้าน ก่อนทำทีเข้ามาเลือกซื้อสินค้า ชวนคุยเหมือนคนสนิทตามปกติ จึงไถ่ถามไปว่า ”พี่หายไปไหนมานานกว่า 2 ปี” โดยตนรู้อยู่แล้วว่าถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้หญิงรายหนึ่งตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา

นายทวีสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาตอบว่า “ไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและเพิ่งเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยได้” วันเกิดเหตุผู้ต้องหาเมาที่ร้านพร้อมกับหญิงรายหนึ่ง ทำทีเข้ามาลองเสื้อแจ็กเก็ตยี่ห้อ BOY LONDON ราคา 13,500 บาท โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นผู้ต้องหายืมโทรศัพท์ของฝ่ายหญิงแล้วออกมายืนหน้าร้าน ออกอุบายว่ามายืนรอเพื่อนและปล่อยให้ฝ่ายหญิงยืนรออยู่ภายในร้านเพียงลำพัง ก่อนที่ผู้ต้องหาจะฉวยจังหวะพนักงานเผลอรีบเดินหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งสวมเสื้อแจ็คเก็ตไปด้วย จึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

Advertisement

ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 ตุลาคม พ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ปทุมวัน ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและเส้นทางหลบหนีของคนร้าย จนกระทั่งพบตัวผู้ต้องหาพร้อมทั้งสวมเสื้อของกลาง หลังก่อเหตุขณะกำลังเดินขึ้นรถประจำทางปรับอากาศสาย 73 วิ่งระหว่างสะพานพุทธ-ห้วยขวาง บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม. ส่วนฝ่ายหญิงที่เดินทางมาพร้อมผู้ต้องหานั้นจากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบข้อมูลว่า เพิ่งรู้จักกับทางผู้ต้องหาได้ไม่นานและถูกลักโทรศัพท์มือถือ จึงตกเป็นผู้เสียหายอีกด้วย

พ.ต.ท.อาทิตย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษเมื่อวันที่2มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนกลับมาก่อเหตุชิงทรัพย์และหลบหนีไปกบดานอยู่บริเวณพื้นที่ห้วยขวาง ขณะนี้ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ห้วยขวาง ช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้อยากฝากถึงพี่น้องประชาชน หากมีเบาะแสหรือพบเห็นคนร้ายสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สน.ปทุมวัน หรือสน.ห้วยขวาง ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image