กราบถวายบังคมลา : โดย วีรพงษ์ รามางกูร

วันนี้วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม 2560 เป็นวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เป็นอีกวันหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั้งที่อยู่ในประเทศและที่อยู่ต่างประเทศทั่วโลก จะได้ถวายอาลัยอย่างสุดซึ้งแด่พระองค์ท่าน ผู้เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ให้ความร่มเย็นเป็นสุข ขจัดปัดเป่าทุกข์ภัยให้กับประชาชนชาวไทยทั้งที่เกิดภายในและที่มาจากต่างประเทศให้หมดสิ้นไป

ทรงเป็นหลักชัย เป็นศูนย์รวมทางจิตใจ ทำให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงระหว่างสงครามเย็น จนประเทศชาติอยู่รอดปลอดภัย ไม่เป็นสนามรบเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทรงขจัดปัดเป่าความขัดแย้งภายในประเทศหลายครั้งหลายหน ไม่ให้เกิดความเสียหายรบราฆ่าฟันกัน อย่างที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ

ในระหว่างสงครามเย็นอันเป็นเวลาที่คนไทยมีความคิดแตกแยกและมีโอกาสที่คนไทยจะรบราฆ่าฟันกัน ทรงเป็นศูนย์รวมทางจิตใจ เสด็จฯไปทรงเยี่ยมประชาชนผู้ยากไร้ในถิ่นที่ทุรกันดาร อันเป็นพื้นที่ที่อันตราย มิได้ทรงย่อท้อ ทรงดั้นด้นไปพบหาประชาชนผู้ยากไร้ทั่วทุกหนทุกแห่ง ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ทรงสร้างพระตำหนักทั้งที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ ไว้เป็นที่ประทับแรมเพื่อทรงงานเป็นเวลานาน ในโครงการหลวง โครงการพระราชดำริ และโครงการอันสืบเนื่องจากพระราชดำริ รวมทั้งโครงการที่ดำเนินการโดยมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นพระเกียรติยศแพร่ขจรกระจายไปทั่วสารทิศทั่วโลกว่าเป็น “กษัตริย์นักพัฒนา” ทรงได้รับรางวัลการพัฒนาสาขาต่างๆ จากองค์การระหว่างประเทศมากมาย มากกว่ากษัตริย์ประมุขแห่งรัฐของประเทศอื่นๆ ในโลก

จนพวกเราถวายพระสมัญญาว่าเป็น “จอมกษัตริย์ของกษัตริย์” หรือ “King of Kings” ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น..

Advertisement

บัณฑิตจากมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และมหาวิทยาลัยอื่นๆ ล้วนได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของพระองค์ทุกคน ในงานพระราชทานปริญญาบัตรซึ่งใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะเสร็จพิธี บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยทุกแห่งล้วนภูมิอกภูมิใจที่จะมีรูปเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรประดับไว้บนฝาผนังทุกบ้านที่มีลูกหลานเรียนจบมหาวิทยาลัยและได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระองค์ท่านอย่างใกล้ชิด

เมื่อเป็นนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รู้สึกภูมิใจเป็นล้นพ้นเมื่อเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ทรงครุยรัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต ประดับอยู่บนผนังหน้าห้องประชุมกรรมการคณะ ที่ชั้น 2 ของตึก 1 หรือตึกสำราญราษฎรบริรักษ์ ที่เราได้รับการสั่งสอนว่าเมื่อขึ้นพ้นบันไดต้องถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์ทุกครั้ง จึงมีความรู้สึกว่าพระองค์ท่านประทับอยู่ที่นั้นจริงๆ

ในฐานะนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรู้สึกเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นหาที่เปรียบมิได้ เมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯมาทรงปลูกต้นจามจุรีที่หน้าหอประชุมใหญ่ มีโอกาสได้แต่งชุดขาวผูกเนกไทเข้าแถวเฝ้าฯรับเสด็จก่อนจะเข้าเฝ้าฯในหอประชุมใหญ่

Advertisement

สิ่งที่ไม่อาจจะลืมเลือนได้อีกอย่างก็คือ วันเสด็จฯไปทรงดนตรี ที่หอประชุมใหญ่ทุกปี ถือเป็นเกียรติยศอย่างสูงของพวกเราที่ได้เข้าเฝ้าฯอย่างใกล้ชิดในวันทรงดนตรี ได้ฟังพระสุรเสียงรับสั่งอย่างเป็นกันเองกับนิสิตที่เข้าเฝ้าฯ จนพวกเรามีความรู้สึกว่าตัวพวกเราจะลอยไปติดเพดานหอประชุม ด้วยความปีติที่ได้ใกล้ชิดกับพระองค์

นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็คงจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับพวกเราชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย..

ความรู้สึกดังกล่าวของบรรดานิสิตนักศึกษาคงจะแผ่ไพศาลไปยังบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะที่ใด เช่น ก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ที่ต่างจังหวัดที่เสด็จฯไปทรงเยี่ยมเยียน จนประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความรู้สึกอบอุ่นในฐานะที่เป็นพสกนิกรของพระองค์ ทุกชนชั้นและทุกระดับชั้น พระองค์มิได้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยเฉพาะ แต่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ของชนทุกหมู่เหล่าที่เป็นราษฎรชาวไทย ทุกคนทุกพื้นที่ทุกภาษาทุกศาสนา เพราะเป็น “พ่อหลวง” ของคนไทยทุกคน

ทุกคนทราบดีว่าวันหนึ่งเราก็อาจจะจากพระองค์ไป หรือพระองค์ก็ต้องจากพวกเราไปเป็นของธรรมดา เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คนไทยทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกชนชั้น ทุกเขตคาม ทุกภาค ก็อดจะเศร้าโศกอาลัยในพระองค์ท่านมิได้

แม้เวลาจะผ่านพ้นไปเป็นเวลากว่าขวบปี เมื่อเห็นภาพทางสื่อมวลชน ทางหนังสือพิมพ์ ทางโทรทัศน์ ทางเว็บไซต์ออนไลน์ ก็อดจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เพราะความอาลัย ด้วยความรู้สึกว่ากำลังสูญเสียสิ่งสำคัญที่ประกอบกันเป็นวิญญาณของตน เป็นของชาติ ของบ้านเมือง ก็ยังคงดำรงอยู่เหมือนจะไม่เสื่อมคลาย

พระเมรุมาศที่ทางรัฐบาลโดยกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างในครั้งนี้ ก็นับว่าเป็นของวิเศษสมพระเกียรติหาที่สุดมิได้ เพราะได้ให้โอกาสแก่ช่างทั้งสิบหมู่ได้คิด ทำ และสร้างถวายอย่างสุดฝีมือ หลังงานถวายพระเพลิงแล้วทางการจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจได้เข้าชม พระเมรุมาศองค์นี้ก็จะเป็นแบบอย่างที่ได้รับการพัฒนาก้าวหน้ามาอีกขั้นหนึ่ง เริ่มตั้งแต่โครงสร้างเปลี่ยนจากไม้มาเป็นเหล็กที่มีน้ำหนักมากแต่ไม่ต้องตอกเสาเข็ม เพราะสนามหลวงเป็นสถานที่ที่จะใช้ในงานพระราชพิธีและพิธีอื่นๆ อีก สิ่งก่อสร้างทุกอย่างเมื่อเสร็จงานแล้วก็จะมีการรื้อถอนออกไป เพื่อรองรับงานอื่นที่จะมีในอนาคตสืบไป

ภาพขบวนอัญเชิญพระบรมศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นพระยานมาศสามลำคาน ไปประดิษฐานที่ในบุษบกบนราชรถ เคลื่อนไปด้วยเพลงพระยาโศกและเพลงอื่น ด้วยเสียงปี่อันเศร้าสลดเสียดแทงไปถึงหัวใจ ก็คงจะเป็นภาพอีกภาพหนึ่งในการกราบถวายบังคมลาของมวลอาณาประชาราษฎร์อย่างที่ฝรั่งเรียกว่าเป็น “The Grand Farewell” ที่พวกเราจะได้ถวายเป็นวาระสุดท้าย

คงจะไม่ใช่ของแปลกที่เราจะได้เห็นภาพของมหาชนชุดดำ ทั้งหญิงและชาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หลั่งไหลมาวางดอกไม้จันทน์ถวายพระบรมศพ ณ จุดต่างๆ ทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร และตามสถานที่ต่างๆ ที่ทางจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดได้จัดไว้ให้ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

เสมือนเป็นการกราบถวายบังคมลากันเป็นครั้งสุดท้าย ที่จะเป็นที่จดจำจารึกกันไว้ในประวัติศาสตร์..

เท่าที่เห็นงานถวายพระเพลิงของพระมหากษัตริย์ไทย ครั้งนี้น่าจะยิ่งใหญ่กว่างานพระศพ หรืองานศพของประมุขของประเทศใดๆ ทั้งหมดในโลก เป็นงานที่ประชาชนราษฎรทุกหมู่เหล่าทุกผู้ทุกคนอยากจะมีส่วนร่วมในงานกราบบังคมลาทั่วทุกคน จนคณะผู้จัดงานไม่อาจจะสนองความตั้งใจของประชาชนทุกเหล่าต่างๆ เหล่านั้นได้ จึงต้องจัดให้มีพระเมรุมาศจำลองขึ้นในกรุงเทพมหานครและที่อื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนผู้ต้องการมีส่วนร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพได้มีโอกาสมีส่วนร่วมโดยการวางดอกไม้จันทน์ ที่ทางการและทางวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ และสถานกงสุล ที่ทำการผู้แทนการค้าไทยได้จัดสถานที่ไว้ให้

งานครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดไปทั่วโลก มีการบรรยายเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้ประชาชนไทยและประชาชนชาติอื่นๆ ทั่วโลกได้รับชมและถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่าน อันจะเป็นเกียรติยศของประเทศไทยและประชาชนไทยเป็นอย่างยิ่ง

ประชาชนคนไทยทุกคนคงจะมีความรู้สึกเหมือนกัน ร่วมกัน ที่จะต้องกราบถวายบังคมลาด้วยความอาลัยรักอย่างสุดที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบได้

ขอกราบถวายบังคมลา

 

วีรพงษ์ รามางกูร

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image