จากกรณีที่ชาวบ้านเหล่าพรวน บ้านป่ากุง บ้านบ๋าเจริญ ได้ร้องเรียนมาว่า โรงงานแป้งมันอำนาจเจริญ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถนนอรุณประเสริฐ (ถนนสายใหญ่ทางไป อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี) ตำบลเหล่าพรวน อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ติดกับโรงเรียนบ้านเหล่าพรวนใกล้กับโรงเรียนบ้านโนนดู่ และโรงเรียนบ้านคำปอแก้วที่อยู่ใกล้ๆ โรงผลิตแป้งมันสำปะหลังดังกล่าวต่างก็ได้รับผลกระทบไปทั่ว คือโรงงานได้ปล่อยกลิ่นเหม็นและน้ำเสียที่เกิดจากการหมักหมมของเศษแป้งที่สะสมไว้เป็นเวลานานจนเน่าบูด จนกลายเป็นแก๊สส่งกลิ่นเหม็นคล้ายปอเน่าแช่น้ำและเหม็นกระจายเป็นบริเวณกว้างตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน และเหม็นมากยิ่งขึ้นในช่วงนี้เนื่องจากมีลมหนาวพัดกระหน่ำทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในตำบลเหล่าพรวน ตำบลสร้างนกทา และตำบลโนนงาม ที่อยู่ใกล้กับโรงงานแป้งมันดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนกันแสนสาหัส เพราะเป็นโรงมันขนาดใหญ่ รวมทั้งวัดและโรงเรียน สถานีอนามัยของรัฐที่มีประชาชนไปใช้บริการอยู่ทุกวันต้องทนเหม็นกับแก๊สเน่า และน้ำเน่า ทำเอาประชาชนและเด็กๆ นักเรียนบางรายต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลกันเป็นจำนวนมาก และยังไม่มีหน่วยงานไหนดูแลตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (29 ต.ค.) นางกิตติยา ศรีจันทร์ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 143 บ้านบ๋าเจริญ ต.สร้างนกทา อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ตนและลูกๆ ที่อาศัยทำบ้านเช่าอยู่ในละแวกใกล้ๆ โรงงานแป้งมันสำปะหลังดังกล่าวนี้ได้รับผลกระทบอย่างมาก กลิ่นเน่าคล้ายปอเน่าจะส่งกลิ่นหนักกว่าเติมเพราะมีลมหนาวโชยมา ทางเจ้าหน้าที่อุตหสากรรมมาตรวจก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น แถมทางด้านอุตสาหกรรมจังหวัดยังบอกตนเองว่ารอไปอีกสัก 2-3 เดือน มันจะหยุดเหม็นเอง ซึ่งตนมองว่าเป็นอุตสาหกรรมจังหวัดพูดได้อย่างไรแบบนี้ ตนและลูกลำบากมากทุกวันต้องทนเหม็นอยู่กับกลิ่นเน่าๆ แบบนี้และเหม็นไปไกลมากโดยเฉพาะผู้อาศัยอยู่ใกล้โรงงานแป้งมัน เช่น ชาวบ้านในตำบลสร้างนกทา หมู่บ้านบ๋าเจริญ บ้านเหล่าพรวน บ้านห้วยทราย หมู่บ้าน เหม็นทั้งหมู่บ้าน อุตสาหกรรมทำไมไม่ไปสอบถาม มาถามแต่บ้านตนที่ออกทีวี และยังพูดว่าอีก 2 เดือน 3 เดือนจะเลิกเหม็น ไม่เคยเร่งให้แก้ไขหายเหม็นแถมมีฝุ่นมันจากโรงงานปลิวมาเป็นฝุ่นละออง
ด้าน นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ตนเคยสั่งการให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วยังไม่ได้รับรายงาน และตนได้สั่งการให้อุตสาหกรรมลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ววันนี้ นอกจากนั้น ตนได้ตั้งกรรมการภาคีออกตรวจสอบอย่างจริงจังและตรวจสอบประชาชนที่ได้รับผลกระทบในการหาทางเข้าช่วยเหลือ “เราให้เวลาแก้ไขแต่ยังแก้ไขไม่ได้ตามระยะที่กำหนดก็ต้องปิดโรงงาน หรือดำเนินการตามกฎหมายเพราะประชาชนเดือดร้อนมาก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ชาวบ้านใน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลเหล่าพรวน ตำบลสร้างนกทาง และตำบลโนนงาม ได้รับกลิ่นเหม็นเน่ากันแรงขึ้นเพราะเข้าสู่หน้าหนาว มีลมพัดแรง ชาวบ้านบอกว่าอยากให้โรงงานแป้งมันนี้ย้ายหนีไปที่อื่น ไปตั้งให้ไกลออกไปกว่านี้อีก เพราะนอกจากจะกลิ่นเหม็นแล้วยังมีฝุ่นละอองลอยไปกับลมสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในละแวกนั้นเป็นจำนวนมาก และลอยไปไกลกว่า 7-8 กิโลเมตรอีกด้วย บ้านพักรีสอร์ต ริมธาร ก็ไม่มีคนมานอนพักเช่นเหมือนแต่ก่อน ลูกๆ ก็บ่นว่าเหม็นไม่ยอมกินข้าวกินปลา และอยากให้โรงงานนี้ปรับปรุงหรือไม่ก็ย้ายออกไป ไปก่อสร้างที่อื่น เพราะที่นี่มันเป็นแหล่งชุมชน มีโรงเรียนและสถานีอนามัยอยู่ใกล้ๆ กับชุมชน และมันก็สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นจำนวนมากในหลายตำบลที่อยู่ในละแวกนี้ ทุกคนทุกบ้านได้รับผลกระทบไปทั่ว หรือว่าโรงงานนี้ใหญ่จนไม่กล้ามีใครไปปิดอย่างนั้นหรือ วอนผู้มีอำนาจเข้าตรวจสอบสั่งย้ายไปสร้างหลังเขา เพราะโรงงานแป้งมันส่วนใหญ่จะก่อสร้างบนหลังเขาเพื่อไม่ให้มีกลิ่นและฝุ่นละอองลอยมาสร้างมลพิษสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
