เปิดใจจิตอาสา ผู้ปรุงเมนู’อาหารพระราชทาน’ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

ที่บริเวณกองสลากเก่า ถนนราชดำเนินกลาง นอกจากจะเป็นที่ตั้งพระเมรุมาศจำลองให้ประชาชนร่วมถวายดอกไม้จันทน์เเล้ว ไม่ห่างกันนักยังเป็นจุดบริการอาหาร น้ำดื่ม ห้องน้ำสาธารณะและหน่วยแพทย์พยาบาลอาสาด้วย

ซึ่งจุดบริการอาหารพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 10 เป็นส่วนมีพื้นที่บริการประชาชนมากที่สุดจุดหนึ่ง โดยมีส่วนของอาหารกล่องพระราชทานหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นข้าวหมูกระเทียม ข้าวหน้าหมูทอด ข้าวต้ม ข้าวไข่เจียวน้ำพริกเผากุ้ง ข้าวผัดกะเพราหมู โดยมีจิตอาสาคอยบริการโดยเริ่มเเจกให้ประชาชนที่ร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพตั้งเเต่ตี 5 ถึงเที่ยงคืน

อาหารพระราชทาน เมนูอาหารเจ ข้าวต้ม 7 เซียน

ใกล้กันที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือ จุดบริการอาหารเจ ที่ยามค่ำคืนเปิดหม้อด้วย “ข้าวต้มเจ็ดเซียน” รสชาติกลมกล่อมด้วยเครื่อง 7 ชนิด คือ ถั่ว เผือก เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ เต้าหู้ทอดเเห้ง เเครอท เเละกุยช่าย นอกจากจะอร่อยเด็ดเเล้วข้าวต้มร้อนๆ ยังช่วยคลายหนาวได้ไม่น้อย

Advertisement
สุชาดา ทวีปวรเดช

สุชาดา ทวีปวรเดช ประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม วี เทเลวิชั่น (ไทยแลนด์) บอกว่า ที่มาของการจัดบริการอาหารเจครั้งนี้ ต้องย้อนไปเมื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ทางกลุ่มซึ่งมีสมาชิกกว่า 20 คนร่วมทำดีถวายเป็นพระราชกุศล โดยการแจกกล้วยเเขกร้อยวันให้กับประชาชนที่มากราบสักการะพระบรมศพเมื่อเดือนตุลาคมปี 2559 และปัจจุบันได้ร่วมจัดทำอาหารพระราชทาน โดยเลือกทำอาหารเจ งดเนื้อสัตว์ถวายเป็นพระราชกุศล ให้บริการประชาชนตลอดงานพระราชพิธี

ทั้งนี้ ซุ้มบริการอาหารเจเป็นส่วนหนึ่งของจุดบริการอาหารพระราชทาน ที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มต่างๆ บริการอาหารคาวหวานเเละผลไม้ในนามศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเทพาพิทักษ์ มวลชนกองพลที่ 1 รักษาพระองค์

ธนกิจ พงศ์ทวีทรัพย์

โดยมี ธนกิจ พงศ์ทวีทรัพย์ จากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเทพาพิทักษ์ มวลชนกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นผู้ประสานงาน

ธนกิจเล่าว่า จุดบริการอาหารพระราชทานส่วนนี้เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มต่างๆ ตั้งเเต่งาน 100 วันของพ่อเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2559 ซึ่งสมาชิกกลุ่มกว่า 100 คน จะทำอาหารบริการประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธีตลอดทั้งวัน อย่างส่วนที่บริการอาหารเจ มีทั้งหมี่เจ ข้าวต้มเจ กระเพาะปลาเจ ยังมีส่วนที่บริการขนมหวาน ขนมปัง เเซนด์วิช น้ำดื่ม และผลไม้ ทั้งหมดนี้สาเหตุหนึ่งเดียวที่ทำให้เกิดการรวมตัวกันได้คือ ความต้องการทำถวายพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 และเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ซึ่งเป็นสถาบันที่คนไทยเคารพนับถือ

“งานครั้งนี้เราเริ่มต้นจากความรู้สึกรักเเละเคารพในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทำให้พวกเรารวมตัวกันเพื่อทำอาหารพระราชทาน ถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งก่อนหน้ามีการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติเป็นประจำปีละ 2 ครั้งคือ ในเดือนสิงหาคมจะมีกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติพระราชินี เเละเดือนธันวาคมจะมีกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติองค์ราชัน ยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมลงพื้นที่ช่วยเหลือคนยากจน รวมถึงลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมด้วย”

ธนกิจเปิดเผยว่า ความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ท่านคงเหมือนกับทุกคนที่สะสมมาตั้งเเต่ยังเด็ก ตั้งเเต่จำความได้ที่บ้านจะมีรูปของพระองค์ท่านที่บ้าน เปรียบเหมือนเป็นพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่เคารพบูชาเเละเป็นที่พึ่งพิงยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยทุกคนจะเรียกพระองค์ท่านว่า “พ่อหลวง” นับถือเหมือนเทพองค์หนึ่ง

“เเล้วยังได้พบเห็นสิ่งที่พระองค์สร้างให้เเก่ปวงชนชาวไทย เเละเคยได้ยินนายทหารชั้นผู้ใหญ่เล่าว่า คืนหนึ่งพระองค์ท่านบรรทมไม่ถึง 3 ชั่วโมงก็ทรงงานเเล้ว เป็นเรื่องที่เล่าสู่กันฟังและเป็นความผูกพันที่ทำให้ผมรำลึกถึงคุณความดีเเละคำสอนของพระองค์ที่ผมจะสืบสานต่อไป ไม่ว่าจะเป็นความพอเพียง ความสามัคคี โดยเฉพาะในกลุ่มที่รวมตัวกันในนี้ เริ่มต้นจากความสามัคคีเป็นที่ตั้ง แล้วค่อยๆ ขยายออกไปโดยมีพระองค์เป็นศูนย์รวมจิตใจ”

ธรารินทร์ ธนสิทธิสุคนธ์

ด้าน ธรารินทร์ ธนสิทธิสุคนธ์ อายุ 53 ปี ประกอบธุรกิจการขายฮาร์ดเเวร์ เล่าว่า เมื่อสมัยเด็กประมาณ 20-30 ปีที่เเล้วมีโอกาสได้รับเสด็จบ่อยครั้ง เนื่องจากบ้านอยู่ไม่ห่างจากวังสระปทุมมากนัก

“เเต่ไม่ได้รับเสด็จเเบบใกล้ชิดนัก คือเมื่อทราบว่าพระองค์เสด็จฯมาก็จะวิ่งไปรับเสด็จ ไปรอกราบพระองค์ท่านที่ริมถนนหลายครั้งด้วยความรักเเละเคารพพระองค์ท่านมาก เพราะตั้งเเต่เด็กก็เห็นว่าพระองค์ท่านบุกป่าฝ่าดง ทุ่มเทเพื่อจะพัฒนาประเทศ ความจำจากตอนเด็กสะสมมาจนเมื่อเราอายุมากขึ้นก็ยังเห็นพระองค์ท่านทำงานอยู่”

จากจุดความคิดเล็กๆ ของตัวเองที่อยากจะทำอะไรเพื่อตอบเเทนพระองค์ท่านบ้าง ก็เลยเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ตัดสินใจทำขนมที่รับประทานง่ายๆ ประเภทแซนด์วิชหรือเบเกอรี่ มาให้กับประชาชนที่มากราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ตั้งเเต่เดือนตุลาคม ปี 2559

จากจุดนั้น ธรารินทร์ได้ทำขนมเเจกประชาชนเรื่อยมาจนถึงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ครั้งนี้

“เริ่มเตรียมเเผนงานตั้งเเต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ทั้งเตรียมทำขนม บางส่วนเตรียมสั่งทำไว้ เริ่มแจกจริงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 25 ตุลาคม ถึงประมาณ 21.00 น. จากนั้นจะเริ่มเเจกต่ออีกครั้งเวลา 03.00 น. และตั้งใจจะเเจกจนวันสุดท้ายของงาน”

พร้อมเปิดเผยความรู้สึกว่า “สุขใจมากที่ได้มาทำเพื่อในหลวงรัชกาลที่ 9 และได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือลูกทุกคนที่มากราบพ่อหลวง”

ธัญญรัศม์ นิธิพงศ์โกมล

ขณะที่ ธัญญรัศม์ นิธิพงศ์โกมล อายุ 57 ปี แม่บ้านจากกรุงเทพมหานคร ตัวเเทนกลุ่มพันสรมวลชนพล 1 เล่าว่า ทางกลุ่มซึ่งมาจากการรวมตัวของเพื่อนๆ เเละน้องๆ ประมาณ 30 คน มาร่วมแจกเฉาก๊วยบริการประชาชนตั้งเเต่ 06.00 น. โดยในกลุ่มมาด้วยหัวใจรักในหลวงรัชกาลที่ 9

“พวกเรามาถึงกันตั้งเเต่วันอาทิตย์เที่ยงตรง ใช้ชีวิตกินนอนกันอยู่ตรงนี้ แม้ฝนตกน้ำท่วมพวกเราก็ไม่ท้อเพราะตั้งใจอยากจะทำถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย ยังมีกลุ่มเพื่อนที่มาจากปากคลองตลาด ก็จะเอาผลไม้มาเสริม อาทิ มะละกอ ฝรั่ง แอปเปิล สาลี่ พุทรา เป็นต้น โดยทางกลุ่มตั้งใจจะเเจกเรื่อยๆ จนกว่าวัตถุดิบจะหมดหรือจนกว่าจะสิ้นสุดงานพระราชพิธี”

สำหรับการบริการอาหารพระราชทานในนามศูนย์บรรเทาสาธารณภัยเทพาพิทักษ์ มวลชนกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เปิดให้บริการตั้งเเต่ช่วงเช้า ประกอบด้วย จุดบริการอาหารเจ จุดบริการอาหารว่าง อาหารคาวปกติ อาทิ ไก่ทอด ข้าวต้มไก่ จุดบริการผลไม้ และจุดบริการขนมหวานมีน้ำเเข็งใส เฉาก๊วย และเบเกอรี่ โดยส่วนที่เป็นเบเกอรี่ ขนมปัง เเซนด์วิช เบเกอรี่เริ่มให้บริการเวลา 03.00 น. โดยจะแจกจนกว่าของจะหมด จนถึงวันสุดท้ายของงานพระราชพิธี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image