ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สรุปตรงกัน
ยังไม่”ปลดล็อก”พรรคการเมือง
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ หัวหน้าคสช. เมื่อ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือ รองหัวหน้าคสช.
จึงนับว่า ชัดเจน แจ่มแจ้ง
ที่บอกว่าหลังพระราชพิธีสำคัญจะมีการพิจารณาในเรื่องการ “ปลดล็อก”ให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ในระดับหนึ่งเพื่ออนุโลมตามพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
ก็เสมอเป็นเพียง “จะ”พิจารณา แต่คสช.จะพิจารณาเมื่อใดยังไม่ทราบ
แจ่มแจ้ง ชัดเจน
เหมือนกับว่าท่าทีไม่ว่าจะจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นไปในแบบ”สตาร์วอร์”
นั่นก็คือ สไตรก์ แบ็ค
เท่ากับเป็นการกำราบให้นักการเมือง พรรคการเมือง รับรู้ว่าใครเป็นใคร
ใครมี”อำนาจ” ใครไม่มีอำนาจ
แม้พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองจะประกาศและบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม แม้รัฐธรรมนูญจะประกาศและบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน
แต่อำนาจที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกก็คือ ประกาศและคำสั่งคสช.
นั่นก็ขึ้นอยู่กับ”ดุลพินิจ”ของ”คสช.”
ยังไม่มีใครตอบได้ว่าคสช.จะประชุมเมื่อใดและจะ”ปลดล็อก”ให้กับพรรคการเมืองเมื่อใด
เหตุผลอันมาจากคสช.ก็คือ
“ยังไม่เรียบร้อย ยังมีการโจมตีบิดเบือนกันอยู่ ยังไม่ไปในทิศทางเดียวกัน และจะทำให้มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ไม่ได้”
เด่นชัดว่าเป็นความไม่เรียบร้อยอันมาจาก”นักการเมือง” เป็นการโจมตีบิดเบือนอันมาจาก”นักการเมือง” เป็นการไม่ไปในทิศทางเดียวกันของ”นักการเมือง”
เหตุผลทั้งหมดนี้ต้องการคำตอบจาก”นักการเมือง”และ”พรรคการเมือง”อย่างเป็นพิเศษ
