เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน นายวุฒิชัย บุญสิทธิ์ ผู้อำนวยการเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้กวดขันการเล่นดอกไม้เพลิง การจุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควันในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง วันที่ 3 พฤศจิกายน เนื่องจากนิยมเล่นอย่างแพร่หลาย จนเกิดอุบัติเหตุและอัคคีภัย ทำให้ประชาชนสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินบ่อยครั้ง ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.ได้กำชับให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการกวดขันอย่างเข้มงวดด้วย ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนเวลาประมาณ 17.00-20.30น. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้อำนวยการเขตพระนคร ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ และหน่วยทหารที่เกี่ยวข้อง โดยมี พล.ต.มนัส จันดี รอง กอ.รมน.กทม. เป็นประธาน เพื่อจัดตั้งกองอำนวยการร่วมเพื่อสกัดไม่ให้มีการซื้อขายพลุและดอกไม้ไฟ ที่บริเวณป้อมมหากาฬ
นายวุฒิชัย กล่าวอีกว่า ระยะเวลาที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ประกอบการภายในป้อมมหากาฬ ทำการขายดอกไม้ไฟโดยไม่มีสินค้า ณ จุดจำหน่าย แต่ใช้วิธีการนำตัวอย่างสินค้ามาโชว์ เพื่อให้ผู้ซื้อได้เลือก จากนั้นจะเป็นพ่อค้าคนกลางรับส่งสินค้าเพื่อจำหน่าย ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าภายนอก อย่างไรก็ตาม กทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ ให้ลงพื้นที่กวดขันร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารของ กอ.รมน. ผลัดเวรตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการโดยรอบบริเวณป้อมมหากาฬลักลอบขายปลีกและขายส่งให้กับประชาชนและร้านค้าจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ทั้งนี้ พื้นที่ป้อมมหากาฬและพื้นที่โดยรอบเป็นแหล่งชุมชน ดังนั้น หากไม่กวดขันอย่างเข้มงวดอาจเกิดเหตุอัคคีภัย โดยส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ซึ่งเป็นวัตถุไวไฟ อย่างไรก็ตามจะมีการขยายสู่พื้นที่อื่นต่อไป
