เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ วันที่ 5 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบช.น.,พ.ต.อ.เสนิต สำราญรรท.ผบก.น.1, พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1,พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล ผกก.สส.บก.น.1, พ.ต.ท.วิเชียร วชิรแสงไพโรจน์ รอง ผกก.สส.บก.น.1, พ.ต.ท.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี รอง ผกก.สส.บก.น. 1, พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รอง ผกก.สส.บก.น.1และ พ.ต.ท.คุณประโยชน์ อารีย์รัตนะนคร สว.กก.สส.บก.น.1 ได้ร่วมกันเเถลงข่าวการ จับกุมนาย บ. นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง สาขาปฐพีวิทยา อายุเพียง 20 ปี มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดออนไลน์ ทั้งนี้ จับกุมได้เมื่อเวลา18.30 น.วันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริเวณสะพานลอยข้ามถนนเพชรเกษม ซอยเพชรเกษม 62/1 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลาง 1.เมล็ดกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศ จำนวน 235 เม็ด 2.อุปกรณ์เพาะปลูก (ดิน,ปุ๋ย,วิธีการเพาะปลูก,ไฟส่องสว่าง) พร้อมจัดส่ง จำนวน 5 กล่อง 3.เมล็ดกัญชาบรรจุซองกระดาษสีน้ำตาล ระบุชื่อผู้รับ พร้อมส่ง จำนวน 22 ซอง โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาผลิต นำเข้า หรือส่งออกยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมายและมียาเสพติดประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
พล.ต.ต.ฤชากรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา ลักลอบขายเมล็ดกัญชา ผ่านทางช่องทางออนไลน์ ในเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งที่จำหน่ายเมล็ดกัญชา ดินและปุ๋ย พร้อมทั้งอุปกรณ์การปลูก ให้แก่บุคคลทั่วไป ในราคาตามที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ หรือสายพันธุ์ตามรายการที่ลูกค้าสั่งซื้อ มีการรีวิวการแสดงผลของกัญชาสายพันธุ์ต่างๆ จากเว็บไซต์ต่างประเทศดึงดูดความสนใจให้แก่ลูกค้ารับชมภายในเว็บไซต์ ได้มีการระบุขั้นตอนแนะนำและวิธีการในการเพาะปลูก ดูแลรักษา ตั้งแต่เพาะเมล็ด อัตราการผสมดินและปุ๋ย การควบคุมแสงสว่าง ระยะเวลาในการปลูกพร้อมเก็บเกี่ยวผลผลิต ระยะเวลางดปุ๋ย ขั้นตอนการจัดเก็บตากแห้งดอกกัญชา และให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่ซื้อเมล็ดกัญชาไปเพาะปลูกเป็นการเฉพาะ มีประชาชนทั่วไปติดตามเป็นจำนวนมากกว่า 15,000 คน โดยจะส่งยาเสพติดและอุปกรณ์ต่างๆ ให้แก่ลูกค้าทางไปรษณีย์
ซึ่งจากการสืบสวนในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการล่อซื้อเมล็ดกัญชา จาก Facebook ดังกล่าวเพื่อนำเมล็ดกัญชาที่ได้สั่งซื้อ มาส่งตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานและ ปปส. ก่อนแล้วว่าเมล็ดดังกล่าวเป็นเมล็ดกัญชาจริง จึงออกสืบสวนติดตามเจ้าของเพจ Facebook นี้มาโดยตลอด จนกระทั่งทราบว่าเจ้าของเพจดังกล่าวคือ นาย บ. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้วางแผนล่อซื้อเมล็ดกัญชา พร้อมอุปกรณ์เพาะปลูก จาก นาย บ. อีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่าติดใจในสินค้ากัญชาดังกล่าวที่สั่งซื้อมาก่อนหน้านี้ จนนำไปสู่การจับกุมนาย บ. ได้ที่เกิดเหตุพร้อมของกลางดังกล่าว
สอบสวนขยายผล นาย บ. ให้การรับสารภาพ ว่าเป็นเจ้าของเพจดังกล่าวจริง โดยจะสั่งซื้อเมล็ดกัญชาสายพันธุ์ต่างๆ มากกว่า 800 สายพันธุ์ ซึ่งแต่ล่ะสายพันธุ์จะให้ความรู้สึกหลังจากการเสพที่แตกต่างกัน ผ่านทางเว็บไซต์ขายเมล็ดกัญชาจากต่างประเทศ (ลักษณะคล้ายซื้อขายของออนไลน์โดยทั่วไป) จากนั้นโอนเงินและแจ้งที่อยู่จัดส่งสินค้า แก่เว็บไซต์ดังกล่าว ประมาณ 20 วัน จะมีพัสดุบรรจุถุงกระดาษจ่าหน้าซองจากต่างประเทศ นำเมล็ดกัญชามาส่งให้ถึงที่บ้าน เพื่อนำมาจำหน่ายให้แก่ลูกค้าไว้เพจของตนและมีการแนะนำวิธีการเพาะปลูก ดูแลเมล็ดกัญชา อย่างไรให้เกิดผลที่สมบูรณ์ เนื่องมาจากเป็นความรู้ในสาขาที่ตนเรียนและทำการศึกษามาถึงวิธีการที่เหมาะสม ในการเพาะปลูก ได้ลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง ซึ่ง นาย บ. เริ่มต้นค้าขายเมล็ดกัญชา สายพันธุ์นอก ผ่านเฟชบุ๊ก มาได้ 3 ปีแล้ว ซึ่งสามารถทำรายได้เดือนล่ะ 40,000-50,000บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ฤชากรกล่าวต่อว่า คดีจำหน่ายยาเสพติดเคสนี้ต่างจากเคสอื่นตรงที่ผู้จำหน่ายเป็นนักศึกษาที่มีความรู้ความสามารถในด้านนี้ เเต่ใช้ในทางที่ผิด มีการรับของจากต่างประเทศนำมาขาย หลังจากนี้เเล้วจะทำการขยายผลไปว่านาย บ.นั้นสามารถนำเข้ายาเสพติดดังกล่าวผ่านเข้ามาในประเทศโดยไม่ถูกตรวจสอบได้อย่างไร รวมถึงจะขยายผลไปถึงผู้ซื้อกว่า 2,000 รายที่เรามีรายชื่อ ไม่ต้องห่วงเราไปถึงบ้านท่านเเน่ ไปดูกันว่าท่านซื้อไปทำไมสำหรับโทษนำเข้ายาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) นั้นมีอัตตราโทษสูงถึง 15 ปี
