เปิดปมเรื่องวุ่นๆ คมนาคม ยอดยุทธทิ้ง รฟม. อารีพงศ์-คณิศไขก๊อกบินไทย

ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แบบสายฟ้าแลบไปเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำหรับ พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ที่นั่งในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2557 พร้อมกระแสข่าวหนาหูว่าจะมีการแต่งตั้ง นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงไทย และกรรมการอิสระ ในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด รฟม.คนใหม่แทน

หลายคนจึงเกิดอาการสงสัยตามมามากมายว่า พล.อ.ยอดยุทธมีปัญหาอะไรรุนแรงจนถึงขั้นอดรนทนอยู่ไม่ไหว ต้องลาออกอย่างเร่งด่วนขนาดนี้หรือไม่

ปมขัดแย้งหาตัวผู้ว่าการคนใหม่

คล้อยหลังไม่นานเกิดข่าวลือสะพัดว่า การลาออกของ พล.อ.ยอดยุทธเกิดจากมีความเห็นขัดแย้งกับผู้ใหญ่ในรัฐบาล เรื่องการสรรหาตัวผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ เนื่องจากผู้ใหญ่ต้องการให้คนนอกเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. ในขณะที่พล.อ.ยอดยุทธต้องการให้คนใน รฟม.เข้ามาบริหารงาน จนทำให้ พล.อ.ยอดยุทธรู้สึกกดดันอย่างหนัก และต้องยื่นหนังสือลาออกในที่สุด

Advertisement

ส่วนรายชื่อของผู้ที่สมัครชิงผู้ว่าการ รฟม.ทั้งหมด 6 คน ประกอบไปด้วย นายรณชิต แย้มสอาด ที่ปรึกษา รฟม. นายกฤต ธนิศราพงศ์ อดีตผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นผู้ว่าการ รฟม. นายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล ที่ปรึกษา รฟม.

นายภคพงค์ ศิริกันทรมาศ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. นายศราวุฒิ ศรีศกุน อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และ นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล อดีตผู้ว่าการ รฟม.

สะพัดรับตำแหน่งรัฐมนตรี

Advertisement

บางกระแสยังระบุด้วยว่า พล.อ.ยอดยุทธลาออกเพื่อเตรียมไปนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เนื่องจาก พล.อ.ยอดยุทธเป็นเพื่อนเตรียมทหาร หรือ ตท.12 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ นั่นเอง

แต่พอถาม พล.อ.ยอดยุทธก็ชี้แจงทันทีว่า การลาออกในครั้งนี้ เนื่องจากจะมีอายุครบ 65 ปี และจะครบวาระในตำแหน่งที่ รฟม.ต้นปี 2561 รวมทั้งที่ผ่านมาได้ผลักดันโครงการการรถไฟหลายเส้นทาง

ให้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว และไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากนี้ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ยังมีงานจัดทำร่างกฎหมายคั่งค้างอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะการเร่งออกกฎหมายหลายฉบับ เช่น กฎหมายภาษีที่ดิน

จึงต้องการเข้าไปทำงานใน สนช.ให้เต็มที่ โดยยืนยันว่าการลาออกไม่ได้เกิดจากความกดดันจากผู้ใหญ่หรือความขัดแย้งภายในองค์กร รวมถึงไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาการสรรหาผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ด้วย

“ผมลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ด รฟม.เนื่องจากมีงานล้นมือ และต้องปฏิบัติงานของ สนช.ด้วย และไม่มีความขัดแย้งเรื่องการสรรหาผู้ว่าการ รฟม.แต่อย่างใด” พล.อ.ยอดยุทธระบุ

ปฏิเสธลาออกไปเป็นรัฐมนตรี

สำหรับความคืบหน้าการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. พล.อ.ยอดยุทธยืนยันว่าการสรรหาดำเนินการตามขั้นตอนของคณะกรรมการสรรหา โดยเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา แต่หากถามความเห็นส่วนตัวก็มองว่า ถ้าคัดเลือกคนภายใน รฟม.ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. ก็เชื่อมั่นว่าจะทำงานได้เลย สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

พล.อ.ยอดยุทธปฏิเสธด้วยว่า การลาออกไม่ได้เตรียมตัวเพื่อไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่มีใครทาบทาม หรือขอให้ไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีที่กระทรวงไหนทั้งสิ้น ขอทำหน้าที่ใน สนช.ให้เต็มที่

ด้าน นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการผู้ว่าการ รฟม. ออกมาระบุด้วยว่า กรณีกระแสข่าว พล.อ.ยอดยุทธเกิดความขัดแย้งกับผู้ใหญ่ในรัฐบาลเรื่องปมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม.จนทำให้ถูกกดดันและลาออกนั้น ไม่น่าเป็นประเด็นหลักในการตัดสินใจลาออกในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีการตรวจสอบกันมาตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง

‘อารีพงศ์-คณิศ’ไขก๊อกบินไทย

อีกฟากหนึ่งคือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บรรดาพนักงานก็ออกอาการมึนงงไม่แพ้กัน นั่นเพราะ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ (บอร์ด) การบินไทย อย่างกะทันหัน หลังจากเพิ่งเดินทางกลับจากการรับเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และการลาออกดังกล่าวส่งผลให้นายอารีพงศ์พ้นจากตำแหน่งประธานบอร์ดการบินไทยที่ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2558 ด้วย

ขณะที่การลาออกของนายอารีพงศ์ครั้งนี้ ถือเป็นการลาออกจากบอร์ดการบินไทยในระยะเวลาเพียงข้ามวันกับ นายคณิศ แสงสุพรรณ ที่ลาออกจากกรรมการการบินไทย ซึ่งมีผลไปในวันที่ 30 ตุลาคม 2560

เหตุความขัดแย้งปมขอลาออก

จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งระหว่างนายอารีพงศ์กับนายคณิศ เรื่องการแต่งตั้งผู้บริหาร ที่ทั้ง 2 คนมีความเห็นที่แตกต่างกัน จึงส่งผลให้ตัดสินใจลาออกหรือไม่ แต่พนักงานบางคนก็เห็นต่าง เพราะหากขัดแย้งกันจริง เมื่อนายคณิศลาออกแล้ว ทำไมนายอารีพงศ์ต้องลาออกตามด้วย

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวเรื่องการถูกกดดันจากฝ่ายการเมืองในการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทยคนใหม่ เพราะถึงแม้จะมีการสรรหามานานแต่ก็ยังไม่สามารถหาตัวผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งได้ โดยล่าสุดการบินไทยยังได้ออกประกาศเรื่อง การขยายเวลารับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย ออกไปจนถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 จากเดิมสิ้นสุดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา

โดยระบุว่าเพื่อประโยชน์ของบริษัท ซึ่งการรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกในตำแหน่งดีดีครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดรับสมัครรอบที่ 2 หลังจากการสรรหาครั้งแรกถูกยกเลิกไป เพราะผู้สมัครทั้งหมดไม่ผ่านเกณฑ์ โดยการเปิดรับสมัครรอบที่ 2 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม-15 กันยายน 2560 จากนั้นได้ขยายเวลาการรับสมัครถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2560 และล่าสุดขยายเวลาถึงวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้

ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสังเกตว่า การลาออกของนายอารีพงศ์และนายคณิศเกือบพร้อมกันนี้ เพื่อเตรียมตัวไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งด้วยหรือไม่

‘อารีพงศ์’เซ็นออกกะทันหัน

เรื่องนี้แหล่งข่าวจากการบินไทยระบุว่า การลาออกของนายอารีพงศ์ ทางพนักงานการบินไทยยังไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริง เพราะถือเป็นการลาออกแบบกะทันหันจริงๆ โดยนายอารีพงศ์บอกเพียงว่าลาออกตามมารยาท เนื่องจากเกษียณอายุราชการตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายน 2560 ที่ผ่านมาเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลายคนทราบว่านายอารีพงศ์ต้องการลาออกจากตำแหน่งมาระยะหนึ่งแล้ว และทราบเรื่องความขัดแย้งกับนายคณิศ ในการแต่งตั้งผู้บริหาร แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงลาออกพร้อมกัน

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าการลาออกของนายอารีพงศ์อาจจะเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อไปนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งนั้น แหล่งข่าวระบุว่า หากดูจากสีหน้าท่าทางของนายอารีพงศ์ตอนที่แจ้งพนักงานเกี่ยวกับการลาออกจากบอร์ดการบินไทยแล้ว ไม่น่าจะเป็นคนที่ลาออกเพื่อจะไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะดูไม่ค่อยมีความสุข

“ที่ผ่านมา นายอารีพงศ์เคยมีกระแสข่าวขัดแย้งภายในบอร์ดการบินไทยคือนายคณิศเท่านั้น แต่การที่นายอารีพงศ์ยื่นหนังสือลาออกจากบอร์ดในเวลาเดียวกับนายคณิศ ก็ทำให้พนักงานการบินไทยต่างรู้สึกแปลกใจ งุนงง และไม่ทราบถึงเหตุผล เพราะคาดเดาได้ยากว่าการลาออกมาจากสาเหตุอะไร เพราะเป็นการลาออกพร้อมกัน”

พนักงานเชียร์’อารีพงศ์’ออก

ด้าน นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย (สร.กบท.) ยอมรับว่า ไม่ทราบจริงๆ ว่านายอารีพงศ์ลาออกเนื่องจากสาเหตุอะไร เดิมเคยได้ยินข่าวว่าจะลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนครั้งนี้คงไม่น่าจะใช่แล้ว แต่เท่าที่ทราบพนักงานหลายคนรู้สึกเห็นด้วยกับการลาออกในครั้งนี้ เนื่องจากการดำเนินงานที่ผ่านมาการบินไทยประสบปัญหาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง นายอารีพงศ์ไม่สามารถทำให้การบินไทยมีกำไรได้ ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน ขณะที่การสรรหาดีดีคนใหม่ก็ยืดเยื้อมานาน และไม่สามารถคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งได้

‘คณิศ’แจงย้ายนั่งเลขาอีอีซี

ขณะที่นายคณิศได้ปฏิเสธกระแสข่าวการลาออกจากบอร์ดการบินไทยว่า ไม่เกี่ยวกับการปรับ ครม. โดยสาเหตุที่ลาออกนั้นเนื่องจากต้องมารับตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (คณะกรรมการอีอีซี) ซึ่งมีภารกิจที่ต้องทำมากมาย โดยเฉพาะงานในรายละเอียดต่างๆ ก็หาคนทำได้ยาก จึงมีความตั้งใจจะทำตรงนี้ให้สำเร็จลุล่วง

ดังนั้นการลาออกจากบอร์ดการบินไทย ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องการปรับ ครม. หรือเพื่อไปรับตำแหน่งใหม่แต่อย่างใด ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าไม่มีการทาบทามไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงไหน หรือหากมีการทาบทามก็ไม่ไป จะทำงานตรงนี้ เนื่องจากได้รับปากกับ พล.อ.ประยุทธ์ไว้แล้ว

แท้จริงแล้วทั้ง พล.อ.ยอดยุทธ นายอารีพงศ์ และนายคณิศ จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังของการทิ้งเก้าอี้บอร์ดที่ซับซ้อนมากกว่านี้หรือไม่ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image