“ขัดหลักธรรมาภิบาลชัดเจน” อภิสิทธิ์จวก ดึงสนช.คดีติดตัว นั่งกมธ.ร่างกม.ป.ป.ช.

“อภิสิทธิ์” จวกดึงสนช.คดีติดตัว นั่งกมธ.ร่างกม.ป.ป.ช. ขัดหลักธรรมาภิบาล สงสัยมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการต้องถาม ถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ตั้งคณะกรรมาธิการฯเพื่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ป.ป.ช.) ว่า ตอนนี้เหมือนสนช.ไม่มีบรรทัดฐานเกี่ยวกับการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องขององค์กรอิสระ แต่เวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานของคุณสมบัติต้องห้าม หรือโครงสร้างอะไรก็ตามที่อาจทำให้ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ในพ.ร.ป.ป.ป.ช. ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะการออกแบบระบบการเมืองโดยเฉพาะในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ป.ป.ช. มีอำนาจสูงมากและเป็นศูนย์กลางของการตรวจสอบถ่วงดุลในระบบ ป.ป.ช.ทำหน้าที่เหมือนเป็นกลไกต้นน้ำส่งเรื่องต่างๆไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา หรือองค์กรอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ป.ป.ช.จึงมีความหมายมาก ดังนั้นถ้าป.ป.ช.ไม่มีความเป็นอิสระ หรือฝักใฝ่ ไม่เป็นกลาง จะเป็นปัญหาที่ใหญ่หลวงมาก

“ผมเคยติงว่าสมัยก่อนหากป.ป.ช.ทำอะไรมิชอบ เราสามารถไปร้องต่อศาลฎีกาโดยตรงได้ แต่ตอนนี้เราจะไปฟ้องโดยตร!งไม่ได้แล้ว จะต้องไปร้องต่อประธานสภาฯ ซึ่งตอนนี้ก็คือ ประธานสนช. ปัญหาคือ รัฐธรรมนูญให้อำนาจประธานสภาฯมากเกินไป ตรงนี้อันตรายมาก ยิ่งในยุคเลือกตั้งประธานสภาฯส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนของรัฐบาล เราจึงต้องให้ความสำคัญกับกฎหมายป.ป.ช.เพราะรัฐธรรมนูญนี้ให้อำนาจป.ป.ช.สูงมาก และเป็นองค์กรหลักในการตรวจสอบถ่วงดุล จากที่เป็นข่าวจะเห็นว่ามีคณะกรรมาธิการฯ หลายท่านที่เป็นคนสนิทของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผมว่าคนสนิทหรือไม่ ตรงนี้ไม่สำคัญ แต่สำคัญตรงที่ว่าสนช.4-5 คนนี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่มีคณะกรรมาธิการฯยังมีคดีเกี่ยวข้องอยู่ ยิ่งชัดเจนว่าเป็นการทำงานที่ขัดต่อหลักธรรมาภิบาล ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image