ฮือฮา!! สื่อฮาวายตีข่าว ป.เอกคนไทย น.ร.ต่างชาติคนแรกได้รับอนุญาตให้วิจัยในห้องเก็บกะโหลกมนุษย์ ม.ฮาวาย

 

พญ.ผาสุก มหรรฆานุเคราะห์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เปิดเผยความก้าวหน้าของนักศึกษาปริญญาเอกหลักสูตรนิติวิทยากระดูก ที่เดินทางไปเก็บข้อมูลงานวิจัยเป็นระยะเวลา 2 เดือน ที่มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ภายใต้การสนับสนุนทุนโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ว่า นางนัทธมน ภู่รีพัฒน์พงศ์ คงคาสุริยฉาย นักศึกษาได้รายงานผลการวัดกะโหลกศีรษะ และการศึกษารูปร่างกะโหลกศีรษะของกลุ่มคนปัจจุบันที่รู้ข้อมูลเฉพาะบุคคล ที่ห้องปฏิบัติการ John A Burns Osteology Collection, John A. Burns School of Medicine มหาวิทยาลัยฮาวาย เพื่อนำไปขยายผลในการศึกษานำร่องเปรียบเทียบกับข้อมูลกะโหลกศีรษะคนไทย เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์เชื้อชาติในงานนิติวิทยากระดูก

พญ.ผาสุก กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ นักศึกษาได้วัดกะโหลกศีรษะมนุษย์จำนวน 130 กะโหลก แบ่งเป็น กลุ่มคนคอเคซอยด์ 70 กะโหลก กลุ่มมองโกลอยด์ 30 กะโหลก ประกอบด้วย ญี่ปุ่น เวียดนาม เกาหลี และจีน กลุ่มเชื้อชาติผสมประมาณ 30 กะโหลก โดยมีทั้งที่ผสมระหว่าง 2-4 เชื้อชาติในบุคคลคนคนเดียวกัน ทั้งนี้ สิ่งที่มุ่งเน้นเพื่องานวิจัยปริญญาเอกคือการเก็บข้อมูลการวัด และข้อมูลภาพถ่ายของกะโหลกศีรษะญี่ปุ่น จำนวน 19 ตัวอย่าง อย่างไรก็ตาม ในการมาทำวิจัยต่างประเทศครั้งนี้ นักศึกษา คปก.ได้ศึกษารูปร่าง และวัดกะโหลกศีรษะของกลุ่มเชื้อชาติอื่นๆ ด้วย เนื่องจากเป็นโอกาสหาได้ยากยิ่งที่จะสามารถศึกษากะโหลกศีรษะของกลุ่มประชากรที่หลากหลายเช่นนี้ เพราะในไทยไม่มีกะโหลกศีรษะของกลุ่มประชากรต่างเชื้อชาติให้ศึกษา นับว่าเป็นโชคดีอย่างมากสำหรับการมาเก็บข้อมูล และเรียนรู้สั่งสมประสบการณ์ของนักศึกษาไทย เพื่อต่อยอดความรู้ในการวิเคราะห์เชื้อชาติจากกะโหลกศีรษะหลากหลายกลุ่มประชากรเช่นนี้

“ในฐานะที่ John A Burns Osteology Collection เป็นแหล่งเก็บรวบรวมโครงกระดูก และกะโหลกศีรษะที่กำลังอยู่ระหว่างการเติบโต และเกิดเป็นแหล่งเรียนรู้วิจัย เพื่อรองรับการมาศึกษาวิจัยของนักเรียนนานาชาติจากทั่วโลกในอนาคต ดังนั้น ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ของคณะแพทยศาสตร์ จึงจัดตั้งโครงการบริจาคร่างกายขึ้น และรณรงค์ให้บุคคลทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญ และประโยชน์ของการบริจาคร่างกายที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ และบุคลากรทางการแพทย์ นิติมานุษยวิทยา และนิติวิทยากระดูก และได้รับความสนใจจากโฮโนลูลู สตาร์ แอดเวอร์ไทเซอร์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฮาวายมาทำข่าวเกี่ยวกับโครงการนี้ โดยนางนัทธมนนับเป็นนักเรียนต่างชาติคนแรก ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาศึกษาวิจัยชุดโครงกระดูกของที่นี่ และอยู่ระหว่างการเก็บข้อมูลในห้องปฏิบัติการ จึงได้ให้สัมภาษณ์ และนำเสนอข่าวในครั้งนี้ โดยหลังจากหนังสือพิมพ์วางจำหน่าย ส่งผลให้มีประชาชนแจ้งความจำนงขอบริจาคร่างกายถึง 25 คนภายในวันเดียว นับว่ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา” พญ.ผาสุก กล่าว

Advertisement

นางนัทธมน กล่าวว่า การได้เก็บชั่วโมงบินสะสมประสบการณ์ฝึกหัดวิเคราะห์กระดูกแบบที่ไม่สามารถจะหาทำได้ในเมืองไทย ได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญโดยการปฏิบัติจริง ทำให้เห็นว่ามีอย่างอื่นที่น่าสนใจ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในขอบเขตสิ่งที่เราทำอยู่ แต่สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้เกิดการพัฒนาตัวเอง และสนุกที่จะสังเกตทุกอย่าง เป็นการเรียนจากของจริงที่สร้างขึ้นมาในตัวเราเองจากการลงมือทำจริง โดยที่ไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไรมากำหนดมากมาย มีอิสระในการเรียนรู้อย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นการเรียนในฝัน การเรียนที่สร้างจากแรงบันดาลใจ ทักษะการวิเคราะห์ไม่ใช่สร้างขึ้นได้จากการอ่านหนังสือแล้วนึกภาพตาม แต่ต้องเห็นของจริง จับของจริง และต้องใช้เวลา ไม่มีทางลัดทางอื่น

“การเลือกตัดสินใจเรียนปริญญาเอกหลักสูตรนิติวิทยากระดูก ที่เน้นการวิเคราะห์โครงกระดูกคนปัจจุบัน ซึ่งมีความสมบูรณ์ของหลักฐานมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการเรียนจากโครงกระดูกที่รู้ข้อมูลเฉพาะบุคคล เพื่อต้องการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ในการวิเคราะห์โครงกระดูกให้มีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น และนำเทคนิควิธีวิทยาที่หลากหลายในการวิเคราะห์โครงกระดูกคนปัจจุบันไปใช้ทำการศึกษาโครงกระดูกโบราณในงานวิจัยด้านโบราณคดีต่อไปในอนาคต” นางนัทธมน กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image