แม่’น้องน้ำ’โดนขู่ ตร.ให้การคุ้มครองพร้อมเร่งรัดคดี คาดโทษถ้ายุ่งเหยิงพยานผิดเงื่อนไขศาล ถอนประกันทันที

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าเยี่ยมให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้าทางคดีให้กับนางจันทิรา ศรีศักดิ์ อายุ 48 ปี ชาว จ.เพชรบุรี มารดาของ น.ส.จริยา หรือน้ำ ศรีศักดิ์ อายุ 16 ปี ซึ่งถูก น.ส.กฤษณา หรือโมนา สุวรรณพิทักษ์ อายุ 45 ปี นายจ้าง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ทำร้ายจนเสียชีวิต แล้วนำศพไปฝังดินในพื้นที่ จ.เพชรบุรี เพื่ออำพรางคดี โดยคดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2555

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า มาเพื่อให้ความมั่นใจกับนางจันทิรา มารดาของ น.ส.จริยา ผู้เสียชีวิต ว่าคดีดังกล่าวทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจ บก.ป.จะดำเนินการอย่างสุดความสามารถ โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อลงโทษผู้ต้องหาในคดีนี้ให้ได้ โดยต้องพิสูจน์ให้ศาลสิ้นสงสัยว่าผู้ต้องหาเป็นผู้กระทำความผิด อย่างไรก็ดี ระหว่างนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อยืนยันว่าเป็นศพ น.ส.จริยา รวมทั้งได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจท้องที่ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ในการคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า ในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของนางจันทิรา และพยานในคดีนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทาง บก.ป.ได้ทำการคุ้มครองพยาน พร้อมกับจะเร่งรัดคดีโดยสืบพยานให้เร็วขึ้นเป็นกรณีพิเศษ อย่างไรก็ดี  คดีดังกล่าวหากพบว่ามีบุคคลใดเกี่ยวพันอีก จะพิจารณาดำเนินคดีทั้งหมด โดยดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้  หลังจากผู้ต้องหาถูกจับกุมและคุมตัวส่งศาลแล้ว ทางศาลได้ใช้ดุลพินิจให้ประกันตัวออกไป แต่มีเงื่อนไขห้ามเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ข่มขู่พยาน รวมทั้งเดินทางออกนอกประเทศ หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไขดังกล่าว ก็จะทำเรื่องขอให้ศาลพิจารณาถอนประกันตัวผู้ต้องหาได้ พร้อมกับคุมตัวไปยังเรือนจำทันที

ด้าน พ.ต.อ.ไมตรีเปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอย่างมาก ในส่วนตำรวจ บก.ป.จะเร่งรัดสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อทำให้สำนวนคดีมีความรัดกุม แน่นหนาที่สุด นอกจากนี้ ยังคงส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าคดีนี้น่าจะมีผู้ร่วมกระทำความผิดมากกว่า 1 คนนั้น แต่เหตุใดยังคงขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพียงรายเดียว ต้องขอชี้แจงว่าบางครั้งการทำงานของตำรวจก็มีข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลา ต้องได้พยานหลักฐานที่มากเพียงพอจึงสามารถขออำนาจศาลพิจารณาออกหมายจับ

Advertisement

พ.ต.อ.ไมตรีกล่าวอีกว่า หากว่ามีพยานหลักฐานที่รอบด้านและสามารถชี้มูลความผิดได้แล้วก็จะรีบขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมทันที ยืนยันว่าคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการกันอย่างเต็มที่ ไม่มีละเว้นว่าจะเป็นผู้ใดหากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง และพร้อมจะให้ความเป็นธรรม ส่วนจะยังมีใครที่เกี่ยวข้องอีกบ้างและมีหน้าที่ซึ่งเกี่ยวพันกับคดีนี้อย่างไรนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดได้ในขณะนี้

ขณะที่ นางจันทิรากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่านับตั้งแต่ขุดพบศพก็เชื่อว่าเป็นบุตรสาวตนอย่างแน่นอน และเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็มีโทรศัพท์จากชายลึกลับ ติดต่อมาหาตนเพื่อขอให้ล้มคดีที่เกิดขึ้นนี้ ก่อนที่จะเกิดความเดือดร้อนกับตนและครอบครัว ทำให้รู้สึกหวาดกลัว และหลังจากวันซึ่งพบศพแล้ว ก็ไม่เคยมีใครติดต่อมาหาตน แม้แต่ น.ส.กฤษณา ซึ่งได้รับการประกันตัวชั่วคราวออกมาแล้ว แต่ก็พอทราบว่าเริ่มมีการข่มขู่พยานเกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นฝีมือของใคร

“ดิฉันอยากจะขอบคุณทางตำรวจทุกคนที่ช่วยกันทำคดีนี้อย่างเต็มกำลัง และคอยติดตามความคืบหน้าให้ทราบตลอดเวลา รวมทั้งคุณปวีณา ที่ดูแลและช่วยเหลือให้ความปลอดภัยตลอดระยะเวลาที่ได้เข้าร้องทุกข์เพื่อขอความเป็นธรรม” นางจันทิรากล่าว

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนางจันทิราได้ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแล้ว ทางรอง ผบ.ตร.ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งให้กับนางจันทิรา ด้วยจากนั้นนางจันทิรา ได้โผเข้ากอดกับนางปวีณา แล้วร่ำไห้ ก่อนจะคร่ำครวญถึงบุตรสาวด้วยความอาลัย ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image