เลขาฯ สพฉ. แสดงความเสียใจ โจ บอยสเก๊าท์ เตือนพบคนหยุดหายใจหรือหายใจเฮือก รีบโทรแจ้ง 1669

​​จากเหตุการณ์ที่นักร้องชื่อดัง โจ บอยสเก๊าท์ เสียชีวิต โดยเป็นการหมดสติขณะกำลังร้องเพลงที่ผับแห่งหนึ่ง ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและเพื่อนๆ ของโจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจเป็นภัยเงียบที่อาจนำมาสู่อาการภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับผู้ที่มีความเสี่ยงได้ตลอดเวลา

​​เลขาธิการ สพฉ.กล่าวว่า ในผู้ป่วยทั่วไป ก่อนที่หัวใจจะหยุดเต้นเฉียบพลัน หัวใจจะมีภาวะเต้นพลิ้วไม่เป็นจังหวะ ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดภาวะหมดสติ ไม่รู้สึกตัว แต่สมองยังคงสั่งการให้ร่างกายพยายามหายใจที่เรียกว่า Gasping breathing หรือการหายใจเฮือก ซึ่งผู้ป่วยจะหายใจแบบอ้าปากพะงาบ ทำให้คนรอบข้างเข้าใจผิดว่ายังหายใจเป็นปกติ และทำให้การตัดสินใจช่วยเหลือด้วยการกดหน้าอก CPR นั้นช้าลง ซึ่งจากการวิจัยทางการแพทย์นั้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการกดหน้าอกช่วยภายในเวลา 4 นาทีหลังจากที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันจึงจะสามารถเพิ่มโอกาสรอด ตนแนะนำว่าขั้นตอนของการช่วยชีวิตสำหรับประชาชนทั่วไป เมื่อพบผู้หมดสติให้ปลุกเรียก ถ้าไม่ตอบสนอง ให้สังเกตการหายใจ หากไม่หายใจ หรือหายใจเป็นเฮือก หรือสงสัยว่าไม่หายใจ ให้โทร 1669 เพื่อเรียกหน่วยกู้ชีพ จากนั้นให้เริ่มทำการกดหน้าอก CPR โดยประสานมือตรงกึ่งกลางหน้าอกระหว่างหัวนมสองข้าง กดลึก 5-6 เซนติเมตร กดต่อเนื่องด้วยจังหวะ 100-120 ครั้งต่อนาที จนกว่าหน่วยกู้ชีพจะมาถึง หรือจนกว่าผู้ป่วยจะมีการตอบสนอง และหากสถานที่นั้นมีเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติหรือ AED ให้ร้องขอเพื่อนำมาใช้ โดยทำตามคำแนะนำของเครื่อง AED ขณะรอคอยชุดปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์จะมาถึง ซึ่งในกรณีลักษณะเช่นนี้เรียกว่าผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต หากได้รับการนำส่งยัง รพ.รัฐหรือเอกชนที่อยู่ใกล้ก็สามารถใช้บริการตามโครงการฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการช่วยชีวิตโจ บอยสเก๊าท์ ด้วยวิธี CPR ในคลิปวิดีโอ มีการพูดกันว่าอาจไม่ถูกต้องหรือไม่ ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดูคลิปวิดีโอดังกล่าว แต่ไม่อยากตำหนิ เพราะทุกคนไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และเชื่อว่าผู้ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวมีความตั้งใจในการช่วยเหลือเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญ หากเกิดเหตุฉุกเฉินทุกกรณีหรือในกรณีผู้ป่วยที่ล้มลงโดยไม่ทราบสาเหตุ หากมีอาการกระตุกหรือหายใจเฮือก อาจไม่ใช่อาการชักเสมอไป เพื่อความมั่นใจให้รีบแจ้งสายด่วนฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้เจ้าหน้าที่แนะนำวิธีการช่วยชีวิตอย่างถูกต้อง โดยให้เปิดสปีกเกอร์โฟนและปฏิบัติตาม ระหว่างรอเจ้าหน้าที่และทีมแพทย์ฉุกเฉินเดินทางมา

“ขอย้ำว่าหลักการช่วยชีวิตเบื้องต้นด้วยวิธี CPR ทำได้ด้วยการปั๊มหัวใจอย่างถูกต้องตรงบริเวณกลางหน้าอกตรงราวนม กดลงไปลึกประมาณ 2 นิ้ว ด้วยความเร็วเฉลี่ย 100-120 ครั้งต่อนาที โดยไม่จำเป็นต้องผายปอด แต่ระหว่างนั้นอย่าลืมโทร 1669” ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image