วันที่ 12 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง ได้นำตัว นายธนัชพงศ์ จิตรธีภิรมย์ หรือดิว หรือเบญ อายุ 29 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดลำปาง ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา หลังจาก นายธนัชพงศ์ ซึ่งเป็นหมอเถื่อนได้ผ่าตัดเสริมทรวงอกกับสาวประเภทสอง อายุ 22 ปี ชาว จ.ลำพูน จนเสียชีวิตในคลินิกดังใน จ.ลำปาง ชื่อ “ดีไวน์คลินิกเวชกรรม” ซึ่งเป็นคลินิกเถื่อนที่เปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนที่ นายธนัชพงศ์จะหลบหนีไปหลังเกิดเรื่องขึ้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยนายธนัชพงศ์ได้หลบหนีไปนานถึง 12 วัน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามได้ตามไปจับกุมตัวมาได้จากอพาร์ตเมนต์ในพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร จะนำตัวมาทางรถยนต์ และมาถึง จ.ลำปาง เช้านี้
หลังจากนั้น ทาง พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผู้กำกับการ สภ.เขลางค์นคร ก็ได้สอบสวนเบื้องต้นกับนายธนัชพงศ์ ก่อนที่จะนำตัวไปชี้จุดที่ดีไวน์คลินิกเวชกรรม ตั้งอยู่อาคารพาณิชย์ภายในโครงการปัญญาปาร์ค ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง เพื่อชี้จุดในแต่ละห้อง ว่า ห้องใดใช้ผ่าตัด และห้องใดใช้เป็นห้องพักผู้รับบริการ โดยเฉพาะได้ชี้จุดห้องที่ใช้ผ่าตัดสาวประเภทสองที่เสียชีวิต เพื่อให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร ได้บันทึกภาพการชี้จุด เพื่อนำไปประกอบในสำนวนในคดีนี้ เนื่องจากทางนายธนัชพงศ์ได้ยอมรับสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วว่า เป็นผู้ผ่าตัดเสริมทรวงอกให้กับสาวประเภทสองคนดังกล่าวที่เสียชีวิตจริง
โดยนายธนัชพงศ์ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ขณะเข้ามายังดีไวน์คลินิกเวชกรรม ว่า ตนเองขอยอมรับผิดทุกอย่าง ซึ่งตนเองนั้นไม่ได้เป็นหมอจริง แต่ตนเองไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายใคร สำหรับลูกค้าที่ตนเองดูแลอยู่ และเคยให้บริการ และเป็นสมาชิกอยู่ประมาณ 1,500 คน ก็ไม่เคยมีปัญหา กระทั่งมาเกิดขึ้นในกรณีนี้ ส่วนความรู้ที่นำมาทำการผ่าตัดศัลยกรรมนั้นมาจากการเรียนรู้มาเฉพาะด้านทางศัลยกรรม ซึ่งที่ผ่านมาในฐานะที่ตนเองเป็นเจ้าของคลินิก ก็ได้เข้าห้องผ่าตัดกับคุณหมอหลายท่านจนทำให้รู้วิธี และมีความเชี่ยวชาญ
นายธนัชพงศ์ยังกล่าวอีกว่า ตนเองชื่อดิวอยู่แล้ว และไม่เคยแอบอ้างว่า เป็นหมอดิว นายแพทย์จิรเดช เกตุรัตนกุล ที่เป็นแพทย์ศัลยกรรมชื่อดัง ส่วนเสื้อกาวน์แพทย์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบในห้อง และระบุชื่อ นายแพทย์จิรเดช เกตุรัตนกุล อย่างชัดเจนนั้น นายธนัชพงศ์ไม่ทราบซึ่งอาจจะเป็นเสื้อของใครที่ติดมาอยู่ในห้องของตนเองในดีไวน์คลินิกเวชกรรม อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นายธนัชพงศ์ได้ยกมือไหว้ผ่านสื่อ เพื่อขอโทษต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเผยความรู้สึกด้วยน้ำตา ว่า ตนเองไม่อยากให้เกิดขึ้น ตนเองยอมรับผิดทุกอย่าง และจะเยียวยาช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้รับบริการที่เกิดความเสียหายทุกคน
