‘นครบาล-สตม.-ทท.’รับลูกกวาดล้าง1แสนต่างชาติผิดกม. แฉตั้งแก๊งคอลฯ โรมแมนซ์สแกม ค้ายา ค้ามนุษย์

จากกรณี พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยฝ่ายความมั่นคง เดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะการปราบปรามผู้มีอิทธิพลชาวต่างชาติ ที่เข้ามาก่ออาชญากรรมทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ ปัจจุบันพบตัวเลขชาวต่างชาติ อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Over Stay )เกือบ 100,000 คน โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับสั่งการให้หน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มข้นในการติดตามและกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแฝงตัวของอาชญากรในรูปแบบต่างๆที่เข้ามาในลักษณะนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. เปิดเผยว่า กำชับสั่งการให้ตำรวจในแต่ละพื้นที่กวาดล้างจับกุมและสืบสวนหาข่าวแหล่งพักพิงหรือหลบซ่อนกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยเหล่านี้มาขึ้นบัญชีข้อมูลพฤติกรรม

ขณะที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.สตม.กล่าวว่า ทางทุกหน่วยในสตม.สืบสวนติดตามจับกุมมาอย่างต่อเนื่องและขยายผลไปเรื่อยๆเพื่อหาแหล่งกบดาน ซ่อนตัวของบุคคลที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ที่ผ่านมามีการจับกุมที่จ.ภูเก็ตจำนวน95คน และอยู่ระหว่างไปในจังหวัด อำเภอ ที่มีแหล่งพักพิงของกลุ่มพวกนี้

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รองผบช.ทท.กล่าวว่า กลุ่มชาวต่างชาติที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดเป็นเรื่องภัยด้านความมั่นคงจากตัวเลขจะมีอยู่ประมาณ 100,000 กว่าคน จะเข้ามาในรูปแบบ บาทหลวง ครูสอนภาษาในโรงเรียนนานาชาติ และนักกีฬา ใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเมื่อครบกำหนดจะแอบแฝงอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด โดยกลุ่มพวกนี้จะแฝงตัวเข้ามาในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โรแมนซ์สแกม ขบวนการค้ายาเสพติด(โคเคน)และค้ามนุษย์ ที่ผ่านมาเมื่อถูกจับกุมและตรวจสอบ จะมีเงินหมุนเวียนรายละ 500,000 – 1,000,000 บาท ทั้งที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง ทำให้นักท่องเที่ยวจริงๆที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยเกิดความไม่ปลอดภัย

Advertisement

รรท.รองผบช.ทท. กล่าวต่อว่า ทางบช.ทท. สตม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)และตำรวจพื้นที่รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมบูรณาการทำงานผลักดันกลุ่มพวกนี้ออกนอกประเทศให้หมดสิ้นไป ที่ผ่านมามีการปิดล้อมไปแล้ว7จุดในแหล่งท่องเที่ยว สำหรับมาตรการหลบซ่อนของกลุ่มพวกนี้ทางบช.ทท. สตม.ขอความร่วมมือให้เจ้าของอพาร์ตเมนต์ ห้องพักแจ้งมายังสตม. บช.ทท. ภายใน 24 ชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด หากตรวจสอบพบจะดำเนินคดีกับผู้ให้ที่พักพิงในอัตราโทษสูดสุง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image