ร้องทหารนายทุนต่างชาติจะปิดถนนลงหาดที่ใช้มานับร้อยปี งงออกโฉนดได้ไง ที่ดินงอกไปในทะเล 15 เมตร

ชาวบ้านหาดเฉวง และชาวประมงพื้นบ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนในการปิดถนนทางลงหาดสาธารณะ ที่หาดแหลมสน เกาะสมุย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 พื้นที่เกาะสมุย หลังจากที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายมาเป็นคนกลางแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านกับตัวแทนเจ้าของที่ดินชาวต่างชาติไม่สำเร็จ

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ประจำพื้นที่เกาะสมุย พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย เจ้าท่าภูมิภาคสาขาเกาะสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย ลงพื้นที่แหลมสน หาดเฉวง หมู่ 2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพบกับชาวบ้าน ชาวประมงพื้นบ้านกว่า 150 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากที่บริษัทนายทุนชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่กำลังก่อสร้างโรงแรมอยู่ติดชายหาด จะปิดถนนที่ชาวบ้านใช้เข้าออกเพื่อลงหาดสาธารณะมาเป็น 100 ปี ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ พร้อมทั้งเชิญเจ้าของที่ดินเข้ามาเจรจาเพื่อหาข้อยุติ

พร้อมกันนี้ นายคำนวล เจริญสุข ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้าน และชาวบ้าน ชาวประมงพื้นบ้านกว่า 100 คน ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 พื้นที่เกาะสมุย ว่า “ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากได้มีการปิดทางลงหาดสาธารณะแหลมสน ซึ่งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจริง ชาวบ้านได้ใช้เส้นทางดังกล่าวกันมายาวนานนับร้อยปี จึงร้องทุกข์มายังกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 พื้นที่เกาะสมุย”

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อบริษัทนายทุนชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่กำลังก่อสร้างโรงแรมอยู่ที่แหลมสน หาดเฉวง ปิดป้ายว่าจะปิดถนนทางเข้าออกที่ชาวบ้าน ชาวประมงพื้นบ้าน นักท่องเที่ยว ใช้เป็นเส้นทางเข้าออกมาเป็น 100 ปี และให้ชาวบ้านไปใช้เส้นทางลงหาดสาธารณะที่อยู่ติดกับโครงการก่อสร้างแทน ขณะที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนมาว่า ไม่สามารถใช้เส้นทางลงหาดสาธารณะได้เพราะโครงการก่อสร้างดังกล่าว มีการทำกำแพงกันคลื่นล่วงล้ำลำน้ำเข้าไปในพื้นที่ชายหาดสาธารณะจนไม่มีทางเดิน อีกทั้งยังมีการก่อสร้างสระว่ายน้ำติดกับแนวเขตโฉนดโดยไม่มีระยะถอยร่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522

Advertisement

ด้านนายชลิต บุญสา อายุ 60 ปี ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน บอกว่า นายทุนต่างชาติจะปิดถนนที่ชาวบ้านใช้มาเป็น 100 ปี และเอกสารสิทธิที่ดินได้มาอย่างไรก็ไม่ทราบ ที่จริงแล้วทางตรงนี้เป็นทางสาธารณะตั้งแต่บรรพบุรุษ ชาวบ้านเดือดร้อนเพราะทางลงทะเลไม่มี การประมงต้องหยุดเพราะไม่มีที่จอดเรือไม่รู้ว่าจะเอาเรือไปไว้ตรงไหน และชาวบ้าน นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวพักผ่อนบนชายหาด มากินข้าวห่อ ไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาได้ ชาวบ้านทั้งหมดอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเอกสารสิทธิกับนายทุนต่างชาตินี้ว่าได้มาอย่างไร แล้วที่ดินแปลงนี้ชาวบ้านสงสัยว่าจุดที่ยืนอยู่ตรงนี้เมื่อก่อนเป็นชายหาด แต่ปัจจุบันที่ดินแปลงนี้งอกเข้าไปในทะเลกว่า 15 เมตรได้อย่างไร หน่วยงานรัฐควรตรวจสอบว่าถูกหรือผิด แต่ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนเพราะจะถูกปิดถนนที่ชาวบ้านใช้มาเป็น 100 ปี

ในส่วนของเขื่อนกันคลื่นที่มีการก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำนั้น ทางด้าน น.ส.ธีรนุช จอมแก้ว เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญการ กล่าวว่า เขื่อนกันคลื่นที่ยื่นเข้าไปในทะเลนี้ ศาลจังหวัดเกาะสมุยได้ตัดสินและมีการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว ในส่วนนี้จะไม่มีการเปรียบเทียบปรับซ้ำเนื่องจากเป็นคดีเดียวกัน สถานที่เดียวกัน ในส่วนที่จะมีการสั่งรื้อหรือไม่นั้นจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง และตรงเขื่อนกันคลื่นนี้จะมีการทำถนนให้ชาวบ้านใช้ ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่อนุญาตได้ แต่อย่างไรก็ต้องเข้ามาตรวจสอบตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาว่าเกิดจากความเดือดร้อนของชาวบ้าน

Advertisement

ด้านนายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย กล่าวว่า หลังจากการเจรจาในวันนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ จึงได้นัดชาวบ้าน เจ้าของที่ดินมาเจรจาอีกครั้งในวันที่ 27 พ.ย.ที่จะถึงนี้ และมาดูหลักฐานกันเพื่อมาหาทางออกว่าจะแก้ไขอย่างไร ดูที่มาที่ไปของการออกโฉนด จาก น.ส.3 เป็นโฉนดว่าเป็นอย่างไรถูกต้องหรือไม่ ถ้าออกโฉนดถูกต้องก็จะมาหาทางออกว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะตอนนี้เจ้าของที่ดินมีโฉนดเขาก็อ้างตามโฉนด แต่เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้กันมาเป็น 100 ปีแล้ว ก็ต้องมาดูว่าปัญหาตรงนี้จะแก้กันอย่างไร แต่ ณ ตอนนี้ทางเจ้าของที่ดินได้เปิดเส้นทางให้ชาวบ้านใช้ได้ถึงวันที่ 27 พ.ย.นี้

“ส่วนที่ทางโครงการก่อสร้างนี้มีการก่อสร้างสระว่ายน้ำระยะถอยร่นไม่ได้ ทางเทศบาลนครเกาะสมุยได้มีการปิดหมายให้หยุดการก่อสร้าง แต่ถ้ายังมีการฝ่าฝืนก็ต้องแจ้งความดำเนินคดี ส่วนการสร้างอาคารที่ถูกต้องก็ต้องให้สร้างต่อไป” นายรามเนตรกล่าว

ล่าสุดเทศบาลนครเกาะสมุย ได้ออกหนังสือคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารตามมาตรา 40 (1) มาตรา 40 (2) และคำสั่งให้ยื่นขอรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารหรือดำเนินการแจ้งตามมาตรา 39 ทวิตามมาตรา 41 ที่ได้ทำการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 1 เมตร ยาว 40 เมตร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image