เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมประชุมความพร้อมต้อนรับเอกอัครราชทูตภูฎานเยือน อ.นาแห้ว จ.เลย ในระหว่างวันที่ 21 – 22 พฤศจิกายน ตามที่ท่านเอกอัครราชทูต ให้ความสนในเนื่องจากศักยภาพลักษณะทางภูมิประเทศ อ.นาแห้ว มีความคล้ายคลึงกับประเทศภูฎาน อีกทั้งวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนก็ยึดมั่นในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้มอบหมายให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. เป็นหน่วยงานประสานและขับเคลื่อน
ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า ในส่วนที่ท่าน เอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรภูฎานประจำประเทศไทย นายเชวัง โชเฟล ดอร์จิ ( Mr.TshewangChophel Dorji ) ซึ่งเป็นตัวผู้แทนของประมุขสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ได้สนใจผลงานขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.ก็เพราะว่าหลักการทำงานของ อพท. ตรงกับหลักการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนของอาณาจักรภูฎาน ซึ่งไม่ได้เน้นจำนวนของนักท่องเที่ยว เป็นในเรื่องของความยั่งยืนและความสุข ของประชาชนในพื้นถิ่น ที่มีหน้าที่รับกับนักท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นท่านได้ให้ความสำคัญเรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ อพท. เพื่อจะได้เป็นต้นแบบให้กับภูฎาน
“ในการนี้ท่านทูตภูฎานก็ได้เดินทางมาที่ส่วนกลาง อพท.เพื่อมาฟังสรุปภาพรวม ในเมื่อท่านได้ฟังสรุปภาพร่วมแล้ว ท่านได้เกิดความสนใจ เพื่อที่จะหาพื้นที่ใดที่พื้นที่ อพท.ดูแลใน 6 พื้นที่ และท่านได้ให้ความสนใจมากกับอำเภอนาแห้ว จังหวัดเลยที่มีลักษณะภูมิประเทศธรรมชาติ วิถีชีวิตของชุมชน ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับภูฎาน อย่างวันโกนวันพระในอำเภอนาแห้วจะชัดเจนมาก คือจะไม่ฆ่าสัตว์เพราะชาวบ้านจะถือศีลอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะเหมือนกับประชาชนของภูฎาน ซึ่งเขาจะถือศีลเคร่งครัดมากและไม่กินเนื้อสัตว์ในวันสำคัญของพุทธศาสนา ด้วยจริตที่มีความคล้ายคลึงกันในลักษณะเช่นนี้ และก็ได้ศรัทธาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ไม่เน้นของรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก
“ท่านทูตภูฎานจึงได้เกิดความประทับใจและแสดงความประสงค์ที่อยากจะมาเยือนจังหวัดเลย ในวันที่ 20-21 พฤศจิกายน นี้ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้มีการประชุมและเตรียมความพร้อมที่จะต้อนรับเอกอัครราชทูตภูฎานอย่างสมเกียรติ ทั้งนี้การที่เอกอัครราชทูตภูฎาน ได้มาครั้งนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในจังหวัดเลยเท่านั้น ยังจะรวมภาพลักษณ์ถึงความสัมพันธ์ระดับประเทศ ที่มีความใกล้ชิดกันตั้งแต่ในระดับราชวงศ์ ลงมาถึงรัฐบาล หน่วยงาน ประชาชน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นความใกล้ชิดระหว่างประชาชนและประชาชนที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดแรกที่ท่านเอกอัครราชทูตภูฎาน แสดงให้เห็นว่าจะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระหว่างกัน”
