‘ปัตตานี’ žรอ ครม.สัญจร แก้ ‘ศก.-มั่นคงž’

27-28 พฤศจิกายนนี้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ จะนำทีมไปประชุม “ครม.สัญจร” ที่ จ.ปัตตานี ก็ไม่รู้ว่าจะเป็น “ครม.ประยุทธ์ 4” หรือ ครม.ประยุทธ์ 5Ž ที่จะไปร่วมประชุม

แต่ไม่ว่าจะ ครม.ชุดเก่าหรือใหม่ ชาวปัตตานีก็ต้องรอต้อนรับด้วยความยินดี และหวังว่าจะมีโครงการบางอย่างในการพัฒนาพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ

ขณะนี้ตามร้านน้ำชา ไม่ว่าจะยามเช้า ยามค่ำคืน และตามสถานที่ไหนๆ หัวข้อการสนทนาพูดคุยของชาวปัตตานีส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการ ครม.สัญจรŽ ครั้งนี้

น.ส.คอลีเยาะ หะหลี ประธานองค์กรเพชรในตมและแกนนำสตรีจังหวัดชายแดนใต้ บอกว่า ในฐานะที่เป็นคนทำงานและอดีตคือผู้สูญเสียในเหตุการณ์ความไม่สงบในหลายปีที่ผ่านมา เมื่อทราบว่านายกฯจะนำคณะ ครม.สัญจร ที่ จ.ปัตตานี ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้มาเห็นและรับรับทราบปัญหาที่แท้จริงว่าเป็นอย่างไร

Advertisement

ทุกวันนี้คนในพื้นที่ยังไร้ความสุขที่แท้จริง ฉะนั้น ถือได้ว่าเป็นสิ่งดีที่นายกฯจะลงมาจัดประชุม ครม.สัญจร เพราะคนส่วนใหญ่ในพื้นที่เองเขาก็ต้องการกำลังใจ อยากพบเจอ อยากคุย อยากเล่าปัญหาที่ตัวเองประสบอยู่

แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าทุกคนต้องการจะให้กำลังใจนายกฯและคณะด้วย เพราะที่ผ่านมานายกฯบริหารประเทศได้ดีหลายเรื่อง โดยเฉพาะหน่วยงานในพื้นที่ทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น การกระจายงบประมาณแบบมีส่วนร่วมเป็นรูปธรรมชัดเจนมากขึ้น ต่างจากที่ผ่านๆ มา ใครจะขอ ใครจะใช้ ใครจะทำก็ทำไป การตรวจสอบไม่มี มือใครยาวสาวได้สาวเอา แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่

ชาวบ้านในหลายๆ พื้นที่ตอนนี้เริ่มมีความเชื่อมั่น สังเกตจากที่มีเรื่องร้องเรียนถึงความไม่ธรรมต่างๆ มากขึ้น ทำให้ชาวบ้านพูดกันว่ายุค คสช.เอาจริงทุกเรื่อง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

Advertisement

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากเสนอให้ปรับปรุงแก้ไขคือเรื่องการให้ข่าวที่ทำให้สังคมภายนอกได้เข้าใจ เช่น ยามเกิดเหตุรุนแรง หรือมีการปิดล้อมจะเป็นเรื่องที่ทุกคนสนใจ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามนำมาใช้โจมตีฝ่ายรัฐ หากฝ่ายไหนนำเสนอข่าวสารได้ก่อนก็ย่อมได้เปรียบ เรื่องนี้มองว่าฝ่ายรัฐยังสอบไม่ผ่าน เพราะยังทำให้เกิดความสับสนในเรื่องข้อเท็จจริง แม้จะมาชี้แจงในตอนท้ายมันก็เหมือนกับเป็นข้ออ้าง จึงอยากฝากให้ปรับกรรมวิธีการสื่อข่าวสารต่างๆ ให้ดีขึ้น

รวมถึงเรื่องการพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่มีทั้งรัฐบาล, คปต.ส่วนหน้า, ศอ.บต., กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รวมไปถึงประชาชนที่ช่วยขับเคลื่อนโครงการนี้ร่วมกัน ถือว่าเป็นโครงการที่ดี อย่างน้อยพื้นที่ที่ถูกเลือกเข้าร่วมโครงการจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตประจำวันที่ดีขึ้น

แต่โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาพอสมควร บางพื้นที่อาจยังไม่เห็นผลในทันที แต่เชื่อว่าถ้าช่วยกันให้ความร่วมมือก็จะทำให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้น ตรงนี้รัฐต้องให้ความสนใจไปที่นักลงทุนจากข้างนอกที่จะมาลงทุนให้มากขึ้นด้วย เพราะจะช่วยให้คนในพื้นที่มีงานทำ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ จึงอยากฝากให้การประชุม ครม.สัญจร ครั้งนี้ทำให้โครงการเป็นรูปธรรมจัดเจนยิ่งขึ้น เพราะเป็นเรื่องปากท้องของคนในพื้นที่โดยรวม

“อยากขอเสริมในเรื่องสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กรณี ตูน บอดี้สแลมŽ ลงมาทำกิจกรรมโครงการก้าวคนละก้าวนั้น ยิ่งตอกย้ำภาพแห่งสันติสุข ภาพแห่งความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ดีมาก ทุกส่วนรวมเป็นหนึ่งจะเห็นได้ว่ามีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัย ทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองต่างช่วยกันทำให้บรรยากาศที่สวยงามมากในพื้นที่บ้านเรา”Ž คอลีเยาะสรุป

ด้าน พิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี บอกว่า รู้สึกยินดีที่นายกฯจะนำคณะ ครม.สัญจร มาประชุมที่ จ.ปัตตานี เพราะจะมารับทราบข้อปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่โดยตรง ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีส่วนที่เป็นข้อมูลจากชาวบ้านโดยตรงด้วย

ที่ผ่านมาไม่เคยมีการนำทั้ง ครม.ลงมาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้รับฟังปัญหาที่ไม่ใช่แค่เรื่องสถานการณ์ความไม่สงบ ยังมีเรื่องประมง เรื่องคนตกงานที่มีอยู่จำนวนมาก
สำหรับปัญหาและการส่งเสริมด้านการพัฒนาด้านต่างๆ ที่ผ่านมารัฐบาลมีความพยายามส่งเสริมอย่างเต็มที่ แต่อาจจะไม่ทันใจประชาชน โดยเฉพาะเรื่องเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดมานานแล้ว ทุกคนอยากจะให้ยุติโดยเร็ว

นโยบายรัฐที่ทำอยู่นี้ไม่ได้ล้มเหลว เพียงแต่ว่าปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้มีความซับซ้อนหลากหลายมาก รัฐบาลก็ต้องใช้ความระมัดระวัง ก็ต้องเข้าใจและเห็นใจ จะเกิดความผิดพลาดไม่ได้ เพราะอาจส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่เกิดความรุนแรงเข้าไปอีก เราต้องให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานต่อไป

สิ่งที่อยากเห็นนโยบายแก้ไขปัญหาความไม่สงบ โดยกำหนดพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษอย่างแท้จริง ไม่ใช่มีจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่เกิดปัญหาเข้ามาร่วมด้วย ทั้งเรื่องสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น การยกเว้นภาษีผู้ประกอบการ หรือนักลงทุนต่างๆ ต้องทำให้เห็นว่ามีความแตกต่างชัดเจน ไม่ใช่ต่างเพียงเล็กน้อย เพราะจะไม่ช่วยดึงดูดบรรดานักลงทุนเข้ามาในพื้นที่ได้ เนื่องจากไม่มีใครอยากที่จะมาเสี่ยงกับการลงทุน

“จึงจำเป็นที่ต้องมีแรงจูงให้มีความสนใจอยากจะมา เมื่อมีการลงทุนมากๆ สิ่งที่จะเป็นผลพลอยได้คือเรื่องการมีงานทำ ที่จะช่วยลดปัญหาความยากจน และคนในพื้นที่จะไม่ถูกชักจูงให้ไปร่วมขบวนการ เพราะทุกคนมีงาน มีรายได้แล้ว แต่ปัญหาที่มีขณะนี้คือการลงทุนในพื้นที่ไม่เกิด ทำให้มีคนว่างงานสูงมาก แม้แต่ผู้ที่จบการศึกษาแล้วก็ไม่มีอะไรมารองรับ ทำให้ไม่มีรายได้ ตรงนี้จึงสุ่มเสี่ยงที่จะถูกชักจูงให้ไปทำในสิ่งไม่ดี”Ž นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี เสนอแนะ

สำหรับการเตรียมการรักษาความปลอดภัย ครม.สัญจร พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยว เพื่อสรุปและจัดแบ่งหน้าที่พร้อมวางแนวทางในการทำงานของทุกฝ่าย ประกอบด้วย กำลังจากกองทัพภาคที่ 4 / กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และกองอาสารักษาดินแดน กระทรวงมหาดไทย จะร่วมกันจัดกำลังมาดูแลพื้นที่ทุกจุดตั้งแต่การลงพื้นที่ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ

แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า จะดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในเมืองเศรษฐกิจ เตรียมความพร้อมการวางระบบการดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ยังจับตาในเขตพื้นที่ล่อแหลม พร้อมเพิ่มการรักษาความปลอดภัยป้องกันการสร้างสถานการณ์ รวมถึงการจัดกำลังช่วยดูแลป้องกันไม่ให้มีการรวมกลุ่มต่างๆ อันจะสร้างความวุ่นวาย

“ขอให้ชาวปัตตานีทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี และเป็นหูเป็นตาป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งที่ไม่ดี เพราะการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ นายกฯและ ครม.ลงมารับฟังปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นŽ” พล.ท.ปิยวัฒน์สรุป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image