เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นายสิทธิชัย เจริญธนะจินดา อดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่โดน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา หลังอดีตผู้ว่าราชการ จ.อุตรดิตถ์ ส่งรายงานเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยหนึ่งใน จ.อุตรดิตถ์ นำกำลังบุกจู่โจมเข้าทำการตรวจค้นบ้าน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด มีเพียงการยึดใบอนุญาตมีอาวุธปืนในการครอบครองซึ่งเป็นใบอนุญาตที่ถูกต้องชอบด้วยกฎหมาย และอีกกรณีคือ การรายงานข้อมูลเท็จว่า ตนยิงปืนของคนอื่นในที่สาธารณะทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ผิดจากข้อเท็จจริงแทบทั้งนั้น
“การบังคับใช้กฎหมาย หรือ ม.44 ของ คสช.นั้นเห็นด้วย เพราะจะทำให้บ้านเมืองสงบสุข แต่ต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยแขวนไปเป็นปี หรือ 2 ปีก็ยังไม่ดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จ ที่สำคัญการรับรายงานจากจังหวัดหรือหน่วยงานก็ควรตรวจสอบให้เกิดความถูกต้องเชื่อถือได้ ไม่ใช่ฟังโดยไม่มีการสอบสวน เพราะบางเรื่องก็เป็นการกลั่นแกล้งกันเกิดความขัดแย้งกันในพื้นที่ และอาศัยการมีอำนาจในมือรายงานไปยัง คสช.ให้ดำเนินการปลดออกจากตำแหน่ง” นายสิทธิชัย กล่าว และว่า หลังจากโดน ม.44 แล้วก็จะไม่เล่นการเมืองท้องถิ่นอีกแล้ว
นายสิทธิชัยกล่าวว่า เพื่อให้การทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่พึงจะได้รับจากการบริหารงานหรือใช้งบประมาณของ อปท. รัฐบาลควรเร่งหันไปมองเรื่องกฎระเบียบการใช้งบประมาณของกระทรวง กรม กองต่างๆ เพราะปัจจุบัน อปท.จะทำโครงการอะไรก็มักถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทวงติงว่าขัดระเบียบขัดกฎหมาย ไม่สามารถทำโครงการนั้นโครงการนี้ได้ ทั้งที่ภาษีก็เก็บจากประชาชนไปปีละมหาศาล แต่พอจะนำงบประมาณออกมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่เป็นเจ้าของภาษีกลับทำไม่ได้
