พุทธะอิสระ ชี้ 6 ข้อบิ๊กตู่ สะท้อนความห่วงใยบ้านเมือง อยากให้ ปชช.เห็นต้นตอปัญหาประเทศ

แฟ้มภาพ

พระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย และแกนนำ กปปส. โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นทางการเมือง ประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้ประชาชนร่วมตอบ 6 คำถาม เกี่ยวกับอนาคตการเมืองไทย โดยระบุว่า

พอท่านนายกฯลุงตู่ ออกมาตั้ง 6 คำถาม ภาคสอง บรรดาสื่อทั้งหลาย ต่างก็หยิบยกเอามาเป็นประเด็น ซักถาม ไม่เว้นแม้แต่พุทธะอิสระ ก็ถูกตั้งประเด็นถามว่า ท่านนายกฯต้องการอะไร ถ้าอธิบายให้ฟังเข้าใจง่าย ในมุมของพุทธะอิสระ คือ ทั้ง 6 คำถาม ท่านนายกฯต้องการฉายภาพสะท้อนให้คนไทยได้เห็นถึงสภาพของปัญหา ที่ถูกนักเลือกตั้งทั้งหลายซุกเอาไว้ใต้พรม หมักหมมมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นปัญหาของคนทั้งประเทศ ในฐานะที่ท่านนายกฯและ คสช. อาสาเข้ามาแก้ปัญหา ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มันทำให้ท่านนายกฯเห็นถึงความสลับซับซ้อน ของสารพัดปัญหาที่มันยุ่งยากต่อการแก้ไข อีกทั้งยังมีความพยายามจากนักเลือกตั้ง และความต้องการของสังคมทั้งหลาย กดดันรัฐบาล คสช. จนกลายเป็นปัญหาใหม่ เพิ่มพูนแรงกดดันให้รัฐบาลมากขึ้นอีก แน่นอนหล่ะ การแก้ปัญหาในท่ามกลางแรงกดดันเช่นนี้หากไม่หาวิธีลดแรงกดดัน การแก้ปัญหายิ่งสำเร็จยากขึ้น

พุทธะอิสระระบุว่า แม้ท่านนายกฯจะมีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ มาตรา 44 ก็ตามที แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนอย่างดียิ่ง การแก้ปัญหาที่ยุ่งเหยิง หมักหมม กองเป็นภูเขาเลากาเหล่านั้น ยิ่งจะสำเร็จได้ยากยิ่ง ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็น 4 คำถามแรก หรือ 6 คำถามหลังก็ดี ล้วนแต่มีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ประชาชนได้รู้ได้ทราบถึงความยุ่งยากลำบากของทางแก้ปัญหา รัฐบาล คสช.ต้องการกระตุกกระตุ้นต่อมแห่งการรับรู้ ต่อมแห่งจิตอาสา การร่วมไม้ร่วมมือจากประชาชนคนไทยทุกคน ให้ได้มีส่วนร่วมต่อการแก้ปัญหาของชาติ มิใช่ปล่อยให้ท่านนายกฯ คสช. รัฐบาล เป็นผู้เข้ามาแก้แต่เพียงอย่างเดียว หากคำถามทั้ง 4 ข้อแรกหรือ 6 ข้อหลัง ที่ท่านถาม นอกจากจะเป็นคำถามที่สะท้อนให้ประชาชนได้เห็นถึงสภาพปัญหา ต้นตอของปัญหารากเหง้าของปัญหาแล้ว ท่านนายกฯยังต้องการ ความร่วมไม้ร่วมมือจากประชาชน ต่อการแก้ปัญหาในทุกปัญหาด้วย มิใช่ถามปัญหา ให้เป็นเพียงแค่วาทกรรมทางการเมืองแต่อย่างใด และถ้าประชาชนยังไม่ไยดีต่อปัญหาของชาติ ยังมีความคิดอ่านเดิมๆ คือบ้านเมืองนี้มิใช่ของฉันคนเดียว เลือกตั้ง ส.ส.แล้วก็ปล่อยให้ ส.ส.ไปแก้ปัญหากันเอาเองเช่นนี้ หากประชาชนในชาตินี้ยังคิดกันอยู่เช่นนี้ ท่านนายกฯคงต้องกลับไปใช้คำถามข้อที่ 2 คือ “การที่ คสช.จะสนับสนุนพรรคใดหรือตนจะสนับสนุนใครเป็นสิทธิของตนหรือไม่ แล้วตนต้องไปลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ก็เปล่า เพราะลงสมัครเลือกตั้งไม่ได้ เนื่องจากตนไม่ได้ลาออก (ลาออกจากนายกฯ) ก็จบแล้ว สิทธิของตนมีไม่ใช่หรือ ตนจะไปสนับสนุนใครก็ได้ หรือไม่สนับสนุนใครเลยก็ได้ ถ้าไม่มีอะไรใหม่ๆ มาตนก็ไม่สนับสนุน”

พุทธะอิสระระบุต่อว่า จึงได้ให้สัมภาษณ์สรุปประเด็นทั้ง 6 คำถามไปว่า ท่านนายกฯท่านถามด้วยความห่วงใยบ้านเมืองท่านอยากเห็นประชาชน ทุกหมู่เหล่า มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศ ท่านต้องการให้การปฎิรูปเดินหน้าไปได้จนสำเร็จกระบวนการ ท่านอยากเห็นคนไทย แผ่นดินไทยเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เจริญด้วยการปั่นตังค์เลย ผลสุดท้าย รวยกระจุกอยู่กับคนไม่กี่ตระกูล ที่เหลือนอกนั้นพากันจนกระจายไปทั้งแผ่นดิน อย่างที่ผ่านๆ มา สรุปสั้นๆ ง่ายๆ คือ คำถามล่าสุดของท่านนายกฯ ต้องการให้ประชาชนรับรู้ถึงสภาพต้นตอของปัญหาบ้านเมือง ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ต้องการโยนเหยื่อให้นักลากตั้งทั้งหลาย และบริวารได้ออกมาแสดงความคิดเห็น เพื่อประเมินดูท่าทีและวิธีคิดของคนเหล่านี้ เพื่อให้ประชาชนพิจารณาในขั้นต่อไปว่า ประเทศนี้ควรจะฝากอนาคตเอาไว้ให้แก่คนเหล่านี้ได้หรือไม่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image