‘แพทตี้’ร่ำไห้! เสียใจกลับมาไม่ทันดูใจพ่อครั้งสุดท้าย เศร้าทำได้แค่เคาะโลงร่ำลา

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่วัดศรีเอี่ยม แพทตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา นักแสดงสาวขวัญใจวัยรุ่น อายุ 26 ปี เดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรม นายกิตติ์ธเนศ สิรภัทรศักดิ์เมธา คุณพ่อวัย 65 ปี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายกิตติ์ธเนศ คุณพ่อของนักแสดงสาวทราบว่าตัวเองเป็นมะเร็งตับอ่อน ระยะที่ 3 เมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว โดยล่าสุดเข้ารับการรักษาตัวที่รพ.รามาธิบดี เนื่องจากมีอาการปัสสาวะไม่ออกได้เพียง 10 กว่าวัน ก่อนเสียชีวิตลงอย่างสงบ ซึ่งขณะนั้นนักแสดงสาวอยู่ระหว่างการทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น และเพิ่งเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย เมื่อคืนที่ผ่านมา (13พ.ย.)

โดย “แพทตี้” พร้อมคุณแม่ ได้ไปเคาะโลงศพเพื่อบอกคุณพ่อว่าตนเองมาถึงแล้ว พร้อมกับนำพวงมาลัยวางข้างโลง บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนพ้องในวงการของนักแสดงสาวมาร่วมอาลัย อาทิ บีม-กวี ตันจรารักษ์, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, เก้า-สุภัสสรา ธนชาต, กั้ง-วรกร ศิริสรณ์, ฝน-ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล, กันต์ ชุณหวัตร, เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ, สเต๊ฟ-สเตฟาน สายชล ปารเนียส ฯลฯ รวมถึง แดน-วรเวช ดานุวงศ์ แฟนหนุ่มที่คอยให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง

Advertisement

ก่อนพิธีสวดอภิธรรมจะเริ่มขึ้น “แพทตี้” เปิดใจถึงการสูญเสียครั้งนี้ว่า วันที่คุณพ่อเสียตนอยู่ต่างประเทศ ครอบครัวเพิ่งทราบว่าคุณพ่อป่วยตอนประมาณช่วงสงกรานต์ปีนี้ ระหว่างนั้นก็รักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่เรื่อยๆ แต่ช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา คุณพ่อเริ่มมีอาการปวดท้อง แต่ก็ยังไม่ได้แย่ ตนมีเวลาดูแลคุณพ่อก่อนจะบินไปทำงานที่ญี่ปุ่นในวันที่ 6 พ.ย. ตอนนั้นคุณพ่อเริ่มมีอาการท้องอืด ตัวเหลือง ไม่มีแรง ก็เลยรีบพาส่งโรงพยาบาลและอยู่โรงพยาบาลยาว ตอนแรกดูเหมือนอาการจะดีขึ้น แต่หลังจากนั้นก่อนที่ตนจะไปญี่ปุ่นคุณพ่อก็เริ่มทรุดลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสพูดคุยกับคุณพ่อก่อนไหม นักแสดงสาวกล่าวทั้งน้ำตาว่า มีโอกาสได้พูดคุย จริงๆ ก็ทราบว่าคุณพ่อจะไป เพราะอาการทรุดประมาณหนึ่งแล้ว ตนได้คุยกับคุณพ่อประมาณหนึ่ง ในสิ่งที่อยากบอก พยายามบอกทุกอย่าง เพราะก็กลัวจะกลับมาไม่ทันเหมือนกัน ในช่วงอยู่ญี่ปุ่นก็วิดีโอคอลคุยตลอด คุยได้นิดหน่อยคุณพ่อก็จะเหนื่อย

“จริงๆ ทุกครั้งที่คุณพ่อไปโรงพยาบาล เราไปด้วยตลอด จะทราบทุกอย่างว่าอาการคุณพ่อเป็นแบบไหน ถึงขั้นไหนแล้ว ทราบทุกขั้นตอน และทำใจมาสักระยะหนึ่งแล้ว เพราะท่านเป็นค่อนข้างรุนแรงแล้ว คือตอนที่ท่านทรุดมีแค่อาการปวดท้อง ก็เลยไปตรวจและเจาะเลือดตรวจทุกอย่าง จนรู้ว่าเป็นมะเร็งที่ตับอ่อนระยะที่ 3 เข้าระยะที่ 4 แล้ว เราก็เป็นกำลังใจให้ท่านเสมอ บอกคุณพ่อให้สู้ที่สุดเท่าที่จะสู้ได้” นักแสดงสาวกล่าว

Advertisement

ต่อข้อถามว่า ตอนทราบข่าวระหว่างที่อยู่ญี่ปุ่นสภาพจิตใจเป็นอย่างไร แพทตี้ตอบว่า ตอนนั้นกำลังทำงานอยู่ ก็พยายามทำให้ดีที่สุด ตนกลับมาไม่ทันรดน้ำศพคุณพ่อ เนื่องจากกลับมาถึงเมื่อคืน และเพิ่งจะได้มาวันนี้วันแรก

ถามว่าวันที่คุณพ่อเสียมีลางบอกเหตุอะไรให้รู้ไหม ดาราสาวกล่าวว่า จริงๆ ก่อนจะไปญี่ปุ่นก็เห็นอาการคุณพ่อสักระยะหนึ่ง แล้วปกติจะมีกรุ๊ปไลน์ของที่บ้าน ตนคอยถามอาการคุณพ่อตลอด แต่วันนั้นกรุ๊ปไลน์เงียบ ทุกคนไม่กล้าบอก รู้สึกเริ่มแปลกๆ แล้ว สุดท้ายเลยตัดสินใจโทร.หาแล้วก็ทราบ บอกให้คุณแม่พูดได้เลยไม่ต้องเป็นห่วง ตนเลยได้ทราบข่าวเป็นคนสุดท้าย

“อาการท่านทรุดเป็นระยะๆ โอกาสที่จะหายเป็นไปได้ยาก เราก็ทำใจมาสักระยะแล้ว วันนี้คุณพ่อไม่อยู่แล้วก็พยายามจะเข้มแข็ง เศร้านิดเดียวพอ(เสียงสั่น) ถามว่ามีอะไรที่ยังไม่ได้พูดไหม จริงๆ ก็พูดไปหมดแล้วตอนที่ท่านยังรู้เรื่องอยู่ บอกไปแล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วงลูกคนนี้ รวมถึงพี่ๆ น้องๆ คนอื่น เราก็ใช้ชีวิตกันต่อไป ก็จะคอยคิดถึงท่านเสมอ” นักแสดงสาวกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนมาถึงเห็นได้ไปเคาะโลงศพ พูดอะไรกับคุณพ่อ แพทตี้บอกว่า บอกคุณพ่อว่ากลับมาแล้วนะ เพราะก่อนจะไปก็บอกท่านว่าให้รอก่อน สำหรับสภาพจิตใจคนในครอบครัวก็คงจะคล้ายๆ กัน ทุกคนทราบมาตั้งนานแล้ว ในระหว่างทางก็พยายามจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น มีอุปสรรคหรือบางทีคุณพ่อก็ท้อบ้าง แต่ก็พยายามทุ่มเทให้คุณพ่อให้เยอะที่สุด ตนเชื่อว่าคุณพ่อก็สู้มาเต็มที่แล้วจริงๆ แล้วก็เชื่อว่าตอนนี้ท่านไปสบายแล้ว จะได้ไม่ต้องทรมานอีก ส่วนช่วง 1-2 คืนที่ผ่านมายังไม่ได้ฝันถึงคุณพ่อเลย เพราะว่าทำงานตื่นเช้า และกลับดึกมาก เหนื่อยมากจริงๆ จึงหลับสนิทไม่ได้ฝันเลยค่ะ

ต่อข้อถามว่า “แดน-วรเวช” ให้กำลังใจยังไงบ้าง แพทตี้ กล่าวว่า พี่แดนให้กำลังใจเยอะมาก โทร.คุยกันตลอด

ด้าน “แดน-วรเวช” กล่าวว่า ตนให้กำลังใจมาตลอดตั้งแต่ทราบว่าคุณพ่อของน้องป่วย พอยิ่งทราบว่าป่วยเป็นโรคอะไรก็ยิ่งต้องให้กำลังใจอย่างหนักมากๆ ตนทราบเรื่องอาการป่วยของคุณพ่อของน้องตั้งแต่ช่วงแรกที่ตรวจพบว่าน่าจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ ตอนนั้นก็มีโอกาสได้คุยกับคุณพ่อเพราะท่านได้เอาใบผลการตรวจมาให้ดู ตนก็พยายามบอกว่าไม่น่าจะใช่ สุดท้ายพอใช่ ก็ต้องสู้กันต่อไป

วันที่คุณพ่อของน้องเสีย ตนก็ได้คุยกับน้อง ตนถ่ายซีรีส์อยู่ ส่วนน้องทำงานต่างประเทศ ต้องบอกว่าน้องเป็นคนที่เข้มแข็งมาก ตนเห็นน้องไปเฝ้าตั้งแต่ตอนที่คุณพ่อทำคีโม เฝ้าตอนที่คุณพ่อให้เลือดวันละเป็นสิบชั่วโมง เดินวิ่งสองสามตึกไปเอาเลือดเองอยู่คนเดียว รวมไปถึงระยะทำใจและตอนที่ทราบข่าว หน้าที่ของตนทำดีที่สุดก็คือคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ถามว่าน้องเคยมาร้องไห้ให้เห็นบ้างไหม แน่นอนอยู่แล้วที่น้องร้องไห้ตลอดเวลา บวกกับภาวะความเครียดในเรื่องของอาการป่วยต่างๆ ในชีวิตของน้องไม่เคยเจอสภาวะแบบนี้ก่อน มาเจอหนักๆ ก็เป็นคุณพ่อของตัวเองเลย

หลังจากนี้ตนคงเป็นเหมือนเดิม ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ดูแลน้องให้เต็มที่ในทุกๆ สภาพจิต ถามว่าเคยสัญญาอะไรกับคุณพ่อเอาไว้ไหม จริงๆ ตนกับพ่อเคยคุยกันอยู่แล้วเรื่องความมั่นคงในอนาคต จะทำอะไรต่อไป จะดูแลกันยังไง ตนก็จะพยายามทำสิ่งนั้นให้ได้ และให้คุณพ่อสบายใจที่สุดในวันที่คุณพ่อน่าจะอยู่บนฟ้าแล้ว

สำหรับการสวดพระอภิธรรม นายกิตติ์ธเนศ สิรภัทรศักดิ์เมธา จะมีขึ้นวันที่ 13-17 พ.ย. เวลา 18.30 น. ที่วัดศรีเอี่ยม และจะมีการฌาปนกิจวันที่ 18 พ.ย. เวลา 15.00 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image