กรมอนามัยส่งแรงเชียร์ ‘ตูน บอดี้สแลม’ จ่อระดมทุน-ขอลิขสิทธิ์ทำเสื้อหมวกร่วมโครงการ ‘ก้าวคนละก้าว’

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน   ที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย นำข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง กรมออกกำลังกายประจำวันพุธตามนโยบายนายกรัฐมนตรี โดยในสัปดาห์นี้ได้มีการเพิ่มกิจกรรม “ส่งแรงเชียร์ให้พี่ตูนและทีมงานก้าวไปถึงแม่สาย” เพื่อสนับสนุนกิจกรรม “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 รพ.” ของ “ตูน บอดี้สแลม” หรือนายอาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องชื่อดัง โดยหลังออกกำลังกายเสร็จได้มีการตะโกน “พี่ตูนสู้ๆ หมอสู้ๆ พยาบาลสู้ๆ” อีกด้วย

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า  กรมอนามัย สนับสนุนให้คนไทยออกกำลังกายตามนโยบายรัฐบาล และจากการจัดกิจกรรมก้าวคนละก้าวของคุณตูน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ 2 อย่างคือ 1.เพื่อระดมทุนช่วยเหลือพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาล และ 2.ต้องการจุดกระแสให้คนไทยหันมาออกกำลังกาย ใส่ใจดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย และไปโรงพยาบาลน้อยลง เนื่องจากทุกวันนี้คนนั่งกันมากขึ้น เคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง เป็นสาเหตุให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ ตามมา ทั้งเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง เป็นต้น กรมฯ จึงดำเนินการสนับสนุนกิจกรรมของคุณตูน โดยเริ่มจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อสร้างกระแสในกรมอนามัยให้มาออกกำลังกายก่อน และเป็นแรงเชียร์ในการตามล่าความฝันของคุณตูนบรรลุถึงเป้าหมายคือไปถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย และจะขยายกระแสการออกกำลังกายไปยังคนไทยทั้งหมด

“ขณะนี้กำลังเสนอกระทรวงสาธารณสุขทำกิจกรรมในภาพรวม และช่วยระดมทุนเพื่อสมทบทุนกับโครงการก้าวคนละก้าวเมื่อคุณตูนวิ่งมาถึงกรุงเทพฯ ซึ่งยังมีเวลาอยู่ประมาณ 15-20 วัน ถือเป็นการร่วมด้วยช่วยกัน เป็นการปลุกเรื่องจิตสาธารณะในการทำประโยชน์เพื่อคนอื่น โดยอาจมีการประสานเพื่อขอลิขสิทธิ์ในการจัดทำเสื้อและหมวกก้าวคนละก้าว ในการผลิตและช่วยจำหน่าย โดยเงินทุกบาททุกสตางค์จะคืนให้โครงการทั้งหมด ไม่มีการหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการใดๆ คือเราลงทุนหน่อยและให้กำไรทั้งหมดแก่โครงการ” นพ.วชิระ กล่าวและว่า นอกจากนี้ เมื่อคุณตูนวิ่งใกล้ถึงกรุงเทพฯ ก็คงจะไปร่วมกิจกรรมกันด้วย ซึ่ง สธ.ก็อยากให้บุคลากรสาธารณสุขทั้งระดับจังหวัดและเขตสุขภาพร่วมด้วย

Advertisement

นพ. อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวว่า ออกกำลังกายช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง  ลดการเจ็บป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เพราะเมื่อหัวใจทำงานดี หลอดเลือดดี ระบบไหลเวียนเลือดดี ก็จะช่วยให้การเผาผลาญดีทั้งน้ำตาล ไขมัน โอกาสเสี่ยงเบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูงก็ลดลง และเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้ดี มีความแข็งแรงก็ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง โดยมีการศึกษาว่าการวิ่งช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งเต้านมได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขและสารภูมิต้านทานต่างๆ ของร่างกายมากขึ้น จึงยิ่งช่วยให้สุขภาพแข็งแรง โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งมาราธอน 42 กิโลเมตรแบบคุณตูน แต่อาจเพิ่มการก้าวให้มากขึ้น เช่น ผู้สูงอายุ หรือคนอ้วน อาจใช้การเดินเร็วแทน คือให้มีการเดินวันละ 10,000 ก้าวอย่างที่คุณตูนบอก หรือเดินให้ได้ 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์

นพ.อุดม กล่าวว่า ส่วนการออกกำลังกายต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งหรือแดดจัด ควรออกในเวลาเช้าหรือเย็นหน่อย เนื่องจากแดดจัดยิ่งทำให้เสียเหงื่อมาก ทำให้เกิดการเผาผลาญภายในกล้ามเนื้อแทน ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อสลาย แต่อย่างคุณตูนมีทีมแพทย์ พยาบาล ทีมสื่อสารคอยดูแล ซึ่งจะต้องมีการตรวจปัสสาวะบ่อยครั้งเพื่อดูค่าว่ากล้ามเนื้อสลายมากหรือไม่ เพื่อให้การดูแลอย่างเหมาะสม แต่สำหรับประชาชนทั่วไปก็แนะนำให้ออกกำลังกายในที่ร่มหรือในช่วงเช้าเย็นที่ไม่มีแดดจัดจะดีกว่า

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image