เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุรถชนพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ในกระทรวงสาธารณสุข ว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กำชับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีนพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และนิติกร กลุ่มเสริมสร้างวินัยและคุณธรรม เป็นกรรมการและเลขานุการ เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เนื่องจากอยู่ในความสนใจของสังคม เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป เช่น เป็นการทำความผิดทางวินัยหรือไม่ เกิดความเสียหายใดแก่ทางราชการ ซึ่งจะต้องหาผู้รับผิดชอบชดใช้หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ไม่มีอำนาจเกี่ยวกับคดีทางอาญา สำหรับจะมีกรณีขับขี่ขณะเมาสุราหรือไม่ คณะกรรมการฯ จะตรวจสอบ โดยอาจนำข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประกอบการพิจารณา หากพบข้อเท็จจริงว่าเป็นเช่นนั้น จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยต่อไป
ด้าน นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้มี 2 ส่วน โดยส่วนคดีอาญาก็จะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนทางกระทรวงสาธารณสุข จะทำหน้าที่ในเรื่องการสอบสวนทางวินัยราชการ แต่เบื้องต้นก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งตน รับหน้าที่เป็นประธานตรวจสอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของวินัยราชการจะพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ มีเรี่องของการดื่มสุราจนเมาหรือไม่ ซึ่งก็จะพิจารณาคู่ขนานไปกับทางคดี แต่ก็จะขอข้อมูลหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บได้มาพิจารณาเป็นหลัก นอกนั้นก็จะเชิญนพ.ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศก์เขต 12 มาให้ข้อมูลด้วยเช่นกัน คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาขั้นตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่เกิน 1 สัปดาห์ จากนั้นจะนำข้อมูลเสนอผู้บริหาร และสอบด้านวินัยราชการต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ที่อาจมีคนตั้งข้อสังเกตว่าตั้งผู้ตรวจราชการฯเป็นประธานกรรมการสอบฯ จะช่วยเหลือกันหรือไม่ นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะจริงๆแล้วการเลือกผู้ตรวจราชการฯ มาเป็นประธานการตรวจสอบฯ เนื่องจากตามหลักราชการผู้ที่จะตรวจสอบจะต้องมีตำแหน่งที่สูงกว่า ซึ่งผู้ตรวจราชการฯ แม้ซีจะเท่ากับสาธารณสุขนิเทศก์ แต่โดยตำแหน่งสูงกว่าเพราะเป็นฝ่ายบริหาร ขณะที่สาธารณสุขนิเทศก์เป็นฝ่ายวิชาการ และการที่ตนได้รับเลือกก็เพราะดูแลพื้นที่เขตสุขภาพที่ 11 ซึ่งใกล้เคียงเขต 12
วันเดียวกัน นพ.สกล สุขพรหม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวถึงความคืบหน้าอาการนายสมชาย ยามดี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) ว่า อาการล่าสุดวันนี้ (16 พ.ย.) ผู้ป่วยเรียกลืมตา ทำตามสั่งได้ ความดันปกติ ไข้เริ่มลดลง แต่ยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งลองให้หายใจเอง แต่หายใจเองได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งยังไม่ดีมาก ถือว่ายังอยู่ในอาการวิกฤต ต้องเฝ้าระวัง ขณะที่ผลการเพาะเชื้อ เบื้องต้นพบเชื้อในเสมหะ แต่รอผลจำเพาะอีกครั้ง