‘นักเศรษฐศาสตร์’ ยกตัวเลขแจง ‘สมคิด’ ชี้ล่าสุดตัวเลขคนจนเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ลดลง

วันที่ 17 พฤศจิกายน ดร.เดชรัตน์ สุขกำเนิด นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาความยากจน โดยระบุว่า

ผมขออนุญาตเรียนท่านรองนายกรัฐมนตรีให้ทราบข้อมูลครับ ตามที่ท่านประกาศจะทำให้คนจนหมดไปจากประเทศไทยในปีหน้า ผมขอนำเรียนข้อมูลล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ชี้ให้เห็นว่า ล่าสุดนั้นคนจนในประเทศไทยกลับเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ลดลง

การสำรวจความยากจน โดยเทียบกับเส้นความยากจน (ที่ 2,920 บาท/คน/เดือน) พบว่าในระหว่างปี 2558-2559 ประเทศไทยมีคนจนเพิ่มขึ้น 963,000 คน (เกือบหนึ่งล้านคน) จากเดิมมีจำนวนคนจน 4.847 ล้านคนในปี 2558 เพิ่มเป็น 5.810 ล้านคน ในปี 2559 (หรือเพิ่มขึ้น 20% จากจำนวนคนจนในปี 2558)

ในจำนวนคนจนที่เพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งล้านคน แยกเป็นคนจนในเมืองเพิ่มขึ้น 436,000 คน (หรือเพิ่มขึ้นถึง 24% ของจำนวนคนจนในเมืองในปี 2558) และคนจนในชนบทเพิ่มขึ้น 527,000 คน (หรือเพิ่มขึ้น 17% ของจำนวนคนจนในชนบทปี 2558)

Advertisement

ถ้ามองในแง่สัดส่วนความยากจน พบว่าสัดส่วนของคนจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 7.21% (หรือมีคนจน 7 คน ในประชากร 100 คน) เป็น 8.61%

ในตลอดช่วงเวลา 30 ปี ภาวการณ์ที่ความยากจนเพิ่มขึ้นเกิดขึ้น 3 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2541-2543 ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง จำนวนคนจนเพิ่มขึ้น 5.5 ล้านคน ครั้งที่สองในปี 2551 ในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ จำนวนคนจนเพิ่มขึ้น 398,000 คน และครั้งที่สามก็คือครั้งนี้ ซึ่งมีจำนวนความยากจนเพิ่มขึ้นมากกว่าครั้งวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เสียอีก

การเพิ่มขึ้นของคนจนในครั้งนี้แตกต่างจาก 2 ครั้งแรก ตรงที่ 2 ครั้งแรกจะเกิดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ (อัตราการเติบโตของ GDP ติดลบ) แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงเป็นบวกอยู่ แต่รายได้ของพี่น้องคนจนกลับลดลง

ดังนั้น การเพิ่มขึ้นของคนจนในครั้งนี้จึงอาจจะไม่ใช่วิกฤตตามสถานการณ์ในวัฏจักรเศรษฐกิจ แต่น่าจะเป็นวิกฤตในเชิงโครงสร้างที่เหลื่อมล้ำกันในสังคมมากกว่า

เช่น ในช่วงตั้งแต่ปี 2557-2560 ค่าจ้างที่แท้จริง (หักอัตราเงินเฟ้อออกแล้ว) ของพี่น้องแรงงานแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย และรายได้ที่แท้จริงของพี่น้องเกษตรกรยังคงต่ำกว่าปี 2556 แม้จะเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ประสบภัยแล้งเล็กน้อย ในขณะที่การส่งออกและการท่องเที่ยวกำลังเติบโตได้ดี

เมื่อวิกฤตเป็นวิกฤตในเชิงโครงสร้าง การเติมเงินให้คนจนโดยไม่ได้ช่วยให้โอกาสของพี่น้องคนจนมีมากขึ้น และไม่ได้ปรับโครงสร้างที่เหลื่อมล้ำกันให้ลดน้อยลง (เช่น ความเหลื่อมล้ำทางทรัพย์สิน ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา) ก็คงยากที่จะทำให้คนจนลดจำนวนลงอย่างที่ท่านประกาศไว้ครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image